UN-NGO รุมประณามไทย ละเมิดสิทธิมนุษยชน ฟาดทำเองทั้งที่นั่งเก้าอี้ HRC

UN-NGO รุมประณามไทย ละเมิดสิทธิมนุษยชน ฟาดทำเองทั้งที่นั่งเก้าอี้ HRC

นายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ให้ความเห็นหลังไทยออกมายอมรับว่าได้ส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนที่ถูกคุมขังนานกว่า 11 ปีว่า การส่งตัวกลับดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน

เติร์กกล่าวว่า ผู้ขอลี้ภัยถูกควบคุมตัวในสภาพที่ย่ำแย่ในประเทศไทย โดย 5 รายเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว และอีก 8 คนเชื่อว่ายังคงถูกควบคุมตัวอยู่

สถานการณ์อันเลวร้ายของผู้ถูกควบคุมตัวทำให้รัฐบาลต่างๆ รวมถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา และญี่ปุ่น จับตามองอย่างใกล้ชิด ในระหว่างการพิจารณาแต่งตั้งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายมาร์โก รูบิโอ กล่าวว่าเขาจะกดดันให้ไทยไม่ส่งชาวอุยกูร์กลับจีน

ADVERTISMENT

ซาราห์ บรูคส์ ผู้อำนวยการองค์การนิรโทษกรรมสากล (แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล) ประจำประเทศจีน กล่าวว่า การส่งตัวชายเหล่านี้กลับประเทศจีนโดยบังคับ หรือไม่ว่าชาวอุยกูร์คนใดก็ตาม จะทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลไทยชี้แจงสถานะของคนเหล่านี้

“พวกเขาต้องเผชิญความยากลำบากมามากแล้ว พวกเขาหลบหนีการปราบปรามในจีน แต่กลับพบว่าตัวเองถูกควบคุมตัวโดยพลการในประเทศไทยนานกว่าทศวรรษ ความจริงที่ว่าตอนนี้พวกเขาอาจถูกบังคับส่งตัวกลับประเทศที่ชาวอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ชาวฮั่นในซินเจียงต้องเผชิญกับการทรมานและการปฏิบัติที่เลวร้าย การกักขังโดยพลการ และการบังคับให้สูญหาย ถือเป็นความโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อ” บรูคส์กล่าว

ADVERTISMENT

บรูคส์ย้ำว่า รัฐบาลไทยควรปกป้องคนเหล่านี้ แต่กลับทำให้พวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยงร้ายแรงโดยเจตนา การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไทยเพิกเฉยต่อคำร้องขอของผู้เชี่ยวชาญจากองค์การนิรโทษกรรมสากลและจาก  UN ที่เรียกร้องให้รัฐบาลไทยไม่ละเมิดหลักการไม่ส่งกลับซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากลและในประเทศ และสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นในขณะที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC)

ผู้อำนวยการองค์การนิรโทษกรรมสากลเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและจีนเปิดเผยที่อยู่ของบุคคลเหล่านี้ และหากพวกเขายังคงถูกควบคุมตัวอยู่ ก็ต้องให้แน่ใจว่าสิทธิของพวกเขาได้รับการเคารพอย่างเต็มที่ รวมถึงสิทธิที่จะไม่ถูกทรมานหรือได้รับการปฏิบัติที่เลวร้ายในรูปแบบอื่นๆ เพราะหลายคนมีสุขภาพทรุดโทรมมากหลังจากถูกควบคุมตัวเป็นเวลานานหลายปี พวกเขาต้องเข้าถึงการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสมและเพียงพอ

“เราเรียกร้องให้ยุติความทุกข์ยากของพวกเขา และขอให้เจ้าหน้าที่เคารพสิทธิในการเดินทางอย่างเสรีของพวกเขา เพราะถึงเวลาแล้วที่พวกเขาควรได้รับอนุญาตให้กลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างปลอดภัย” บรูคส์กล่าว

เอเลน เพียร์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคเอเชียของ Human Rights Watch กลาวว่า ไทยเพิกเฉยต่อกฎหมายภายในประเทศและพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างชัดเจน จากการบังคับส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีนเพื่อเผชิญกับการถูกข่มเหง ภายหลังจากการถูกควบคุมตัวอย่างทารุณนาน 11 ปีในห้องขังของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทย ชาวอุยกูร์เหล่านี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงอย่างร้ายแรงจากการถูกทรมาณ บังคับสูญหาย และถูกควบคุมตัวเป็นเวลานานโดยรัฐบาลจีน

เพียร์สันกล่าวอีกว่ารัฐบาลที่เกี่ยวข้องควรที่จะกดดันรัฐบาลจีนเพื่ออนุญาตให้ชาวอุยกูร์ที่เพิ่งถูกส่งตัวกลับไปจีนได้พบกับครอบครัว ผู้สังเกตการณ์อิสระ ตลอดจนกลไกของ UN ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ประวัติของการปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์ที่เลวร้ายของจีนและการกดดันทางการไทยให้ควบคุมตัวชายเหล่านี้เป็นสาเหตุที่น่ากังวลอย่างยิ่งต่อความเป็นอยู่ของพวกเขา

ด้านชาวอุยกูร์ในต่างประเทศต่างแสดงความเสียใจและประณามการตัดสินใจของรัฐบาลไทย โดยทาฮีร์ อิมิน นักเคลื่อนไหวชาวอุยกูร์ที่อยู่ในสหรัฐซึ่งเคยถูกคุมขังในจีนกล่าวว่า “ผมเสียใจ กังวล และหวาดกลัวอย่างยิ่งว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาต่อไป พวกเขาจะได้รับการลงโทษที่ไม่อาจจินตนาการได้ การทรมาน ความตาย และรับประกันได้ว่าจะต้องถูกจำคุกเป็นเวลานาน”

นิวยอร์กไทม์สชี้ว่า จีนใช้พลังอำนาจและอิทธิพลของตนเพื่อปิดปากนักวิจารณ์ในต่างประเทศและกดดันรัฐบาลให้ส่งพลเมืองที่หลบหนีการกดขี่กลับประเทศ ชาวอุยกูร์น่าจะถูกส่งตัวกลับไปยังเขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งพวกเขาจะถูกทางการควบคุมตัวอย่างเข้มงวด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ควบคุมตัวชาวอุยกูร์และกลุ่มคนอื่นๆ มากถึงหนึ่งล้านคนในค่ายกักกันและเรือนจำ เพิ่มมาตรการคุมกำเนิดสำหรับสตรีชาวมุสลิม และส่งเด็กชาวมุสลิมไปโรงเรียนประจำ

ชาวอุยกูร์ซึ่งถูกควบคุมตัวในกรุงเทพฯมานานกว่าทศวรรษ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนมากกว่า 300 คนที่หลบหนีออกจากจีนในปี 2557 โดยหวังจะใช้ประเทศไทยเป็นจุดผ่านแดนเพื่อไปยังตุรกี ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวอุยกูร์จำนวนมาก เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้ถูกควบคุมตัวบางส่วนซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมด ได้อดอาหารประท้วงเนื่องจากเกรงว่าจะถูกส่งตัวกลับจีน

การตัดสินใจเนรเทศชาวอุยกูร์อย่างปัจจุบันทันด่วนเป็นการส่งสัญญานเตือนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของอิทธิพลทางการทูตของจีนในภูมิภาคอย่างชัดเจน สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่จีนกำลังเดินหน้าส่งตัวพลเมืองจีนกลับจากศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในเมียนมา โดยพาข้ามชายแดนมายังประเทศไทยและส่งพวกเขาขึ้นเครื่องบินกลับจีน ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่านี่เป็นการใช้มาตรการกดดันตามนโยบายด้านความมั่นคงของจีนในประเทศไทยโดยตรง

ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ ศาสตราจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า รูปแบบล่าสุดของไทยที่เอาใจรัฐบาลจีนโดยไม่ดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องจะทำให้ไทยเสียเปรียบสหรัฐ เมื่อวอชิงตันแสดงท่าทีก้าวร้าวมาก และมันยังไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีในโลกมุสลิม และที่เลวร้ายที่สุดก็คือชาวอุยกูร์จะต้องทนทุกข์ทรมาน

ด้านนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของไทยอย่างรุนแรงที่สุด และว่าประเทศไทยอาจละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาต่อต้านการทรมานของสหประชาชาติและอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายตัวไปโดยถูกบังคับ

อย่างไรก็ดีภายในสหรัฐเอง รัฐบาลทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากพลเมืองบางส่วนเกี่ยวกับการเนรเทศผู้อพยพ รวมถึงการส่งบางคนไปยังเรือนจำในอ่าวกวนตานาโมที่ดูแลโดยสหรัฐ และยังถูกส่งไปกักขังยังปานามาอีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image