ชายชาวจีน เหยื่อแก๊งคอลที่ BGF ช่วยเหลือ เสียชีวิต 1 ราย ระหว่างรอกลับประเทศ
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ดิอิระวดี รายงานว่า ชาวจีนรายหนึ่งที่ กองกำลังพิทักษ์ชายแดนรัฐกะเหรี่ยง (BGF) ได้ช่วยเหลือจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ รอประเทศต้นทางรับตัวกลัว เสียชีวิต จากการเปิดเผยของ พันโท นาย หม่อง ซอ โฆษกของกลุ่ม BGF
ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตเมื่อวันพุธ เนื่องจากปัญหาตับเรื้องรัง คนนี้เคยทำงานอยู่ในศูนย์หลอกลวงใน เคเคปาร์ค ทางตอนใต้ของเมียวดี ในรัฐกะเหรี่ยงใต้ชายแดนไทย
นายหม่องซอ กล่าวด้วยว่า เขาป่วยด้วยโรคตับมาประมาณ 7 เดือน และมีอาการ ท้องอืด เขามาเมียนมาเมื่อ 4 เดือนก่อน โดยบอกว่าเข้าเมียนมาผ่านเส้นทางผิดกฎหมายจากจีนมาเวียดนาม เวียดนามมาไทย และไทยถึงเมียนมา แต่ไม่ได้อธิบายว่าเข้ามาอย่างไร
พ.ท.นายหม่องซอ กล่าวว่า ผู้ต้องขังชาวต่างชาติบางคนที่ถูกปล่อยตัว มีสภาพร่างกายย่ำแย่ ถูกแยกออกจากกันเพื่อรับการรักษาพยาบาล พวกเขาได้รับการจัดลำดับความสำคัญไว้ในรายชื่อการส่งตัวกลับประเทศ แต่มีความล่าช้าในการจัดเตรียมการรับตัวพวกเขากลับบ้านเกิด ทำให้เกิดปัญหายุ่งยาก
พ.ท.นายหม่องซอ กล่าวอีกว่า พลเมืองจีนกว่า 5,000 คน ได้รับการปล่อยตัวจากศูนย์หลอกลวงในเมียวดี ชเวโก๊กโก่ และ เคเคปาร์ค ระหว่างการปราบปราม แต่จนขณะนี้ จีนได้รับตัวกลับไปเพียง 621 คน
“เราไม่สามารถปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นนักโทษ หรือ กักขังพวกเขาได้ เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็มีความต้องการเพิ่มขึ้น ถามว่าเมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องหยุดชะงัก มีการต่อสู้กันบ่อยครั้งในหมู่พวกเขา”
BGF ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2,000 นาย ดูแลชาวต่างชาติ ที่อาจจะพยายามหลบหนี แต่มีอุปสรรคทางภาษาในการอธิบายสถานการณ์ให้ชาวต่างชาติที่กระวนกระวายได้เข้าใจ
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดูแล ทั้งเรื่องปั่นไฟ ค่าขนส่ง และ ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด มีมากกว่า 95,000 เหรียญสหรัฐ
“ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายทั่วไปสำหรับชาวจีนมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 30,000 จ๊าตต่อวัน”
แหล่งข่าวกล่าวว่า จีนกำลังพยายามสอนบทเรียนให้กับ BGF โดยจงใจชะลอกระบวนการส่งตัวกลับประเทศ BGF กำลังดิ้นรนหลังจากที่ประเทศไทยตัดการจ่ายไฟฟ้า เชื้อเพลิง และความจำเป็นอื่นๆ
BGF อ้างว่าได้ช่วยเหลือ ชาวต่างชาติไปแล้วกว่า 8,700 คน ตั้งแต่เริ่มตรวจตราเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน มีรายงานว่าได้ตรวจสอบความเป็นพลเมืองของชาวต่างชาติ 7,141 ราย ที่เดินทางมาจาก 28 ประเทศ โดย 4,680 คนมาจากจีน