คอลัมน์ไฮไลต์โลก : ศึกการค้า ปลุกกระแสชาตินิยม

ภาพเอพี

คอลัมน์ไฮไลต์โลก: ศึกการค้า ปลุกกระแสชาตินิยม

ความรู้สึกต่อต้านสหรัฐอเมริกากำลังแผ่ซ่านไปทั่วทุกหัวระแหงในประเทศแคนาดา หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดศึกการค้าด้วยการประกาศเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากแคนาดา ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ประเทศนอกเหนือจากเม็กซิโกและจีน ที่ถูกทรัมป์หมายหัวใช้กำแพงภาษีตอบโต้ด้วยข้อกล่าวอ้างว่าปล่อยให้สารเสพติดเฟนทานิลหลั่งไหลเข้ามาสร้างปัญหาให้กับสหรัฐ

เท่านั้นยังไม่พอทรัมป์ยังประกาศโต้งๆ ด้วยท่าทีเอาจริงว่าต้องการให้ แคนาดา ชาติเพื่อนบ้านและพันธมิตรใกล้ชิดที่สุด กลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ ซึ่งเป็นท่าทีคุกคามและไม่เคารพให้เกียรติเพื่อนบ้านอย่างแคนาดาที่ผูกสัมพันธ์กันมายาวนานนับร้อยปีเป็นอย่างยิ่ง

ความเจ็บปวดจุกอกชาวแคนาดาในเวลานี้ที่รู้สึกเหมือนถูกเพื่อนซี้หักหลัง ได้ปลุกกระแสความรักชาติขึ้นมาในแคนาดาให้มีการเคลื่อนไหวตอบโต้สหรัฐ ในขณะที่รัฐบาลแคนาดาได้ประกาศมาตรการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐในอัตราเดียวกันเป็นการต่างตอบแทนในทันที

ADVERTISMENT

หนึ่งในการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์นั้นมีทั้งการบอยคอตต์สินค้าสหรัฐ โดยการกวาดสินค้า Made in USA ออกจากชั้นวางขายในแคนาดา อย่างร้านจำหน่ายสุราขนาดใหญ่ Liquor Control Board of Ontario ในนครโตรอนโต ได้เลิกจำหน่ายสุรานำเข้าจากสหรัฐทั้งหมดรวมถึงวิสกี้ที่ได้รับความนิยมมากจากรัฐเคนทักกีด้วย

ร้านอาหารและสถานบันเทิงยามราตรีหลายแห่งพากันเลิกใช้ผลิตภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบที่ผลิตในสหรัฐ โดยใช้วัตถุดิบที่ผลิตในแคนาดาทั้งหมดแทน

ADVERTISMENT

ร้านคาเฟ่อย่าง Montreal cafe แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการเปลี่ยนชื่อเครื่องดื่มกาแฟจาก “อเมริกาโน่” เป็น “แคนาเดียโน” เจ้าของร้านคาเฟ่แห่งนี้บอกว่าที่เขาทำเช่นนี้เพื่อแสดงความสนับสนุนและความเป็นหนึ่งเดียวของชาวแคนาดาในการตอบโต้สหรัฐ

ยังมีการนำภาพยนตร์โฆษณาเบียร์ Molson ของแคนาดา ช่วงปี 2000 ที่มี “เจฟฟ์ ดักลาส” นักแสดงชาวแคนาดาเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งกล่าววลีสำคัญแสดงความชาตินิยมในโฆษณาตัวนี้ว่า “ฉันเป็นคนแคนาดา” (I Am Canadian) ปล่อยออกมาทางยูทูบ หลังทรัมป์กล่าวถึงความต้องการให้แคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ

ขณะที่ ดั๊ก ฟอร์ด มุขมนตรีรัฐออนแทรีโอ ยืนยันแผนจัดเก็บภาษีส่งออกไฟฟ้าไปสหรัฐ 25% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนในสหรัฐมากถึง 1.5 ล้านหลัง

ยังมีการบอยคอตต์การท่องเที่ยว ที่ข้อมูลของสื่อแคนาดาเผยให้เห็นว่ายอดจองทัวร์ไปสหรัฐของชาวแคนาดาลดฮวบลงไปกว่า 40% แล้ว

เหล่านี้เป็นมาตรการตอบโต้ที่แคนาดามุ่งเอาคืนสหรัฐ ท่ามกลางกระแสความรักชาติของคนแคนาดาที่ถูกปลุกขึ้นมาให้เข้มข้นขึ้นอีกครั้ง

แต่อย่างไรเชื่อว่าศึกการค้าครั้งนี้ย่อมจะส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย เพราะสหรัฐและแคนาดา ต่างเป็นคู่ค้าสำคัญต่อกัน โดยในปี 2024 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันอยู่ที่ราว 762,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งผู้ที่เจ็บหนักที่สุดย่อมไม่พ้นประชาชนตาดำๆ ที่ไม่เพียงต้องแบกรับภาระราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ยังอาจเผชิญกับการตกงานและภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามมาได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image