อิสราเอลปูพรมถล่มฉนวนกาซา ปลิดชีพผู้นำฝ่ายการเมืองฮามาส
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองทัพอิสราเอลได้ทำการโจมตีทางอากาศใส่เมืองข่านยูนิส ในฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ส่งผลให้นายซาเลาะห์ อัล-บาร์ดาวิล (Salah al-Bardaweel) หัวหน้าฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาสเสียชีวิตพร้อมภรรยา ขณะที่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาระบุว่าอิสราเอลได้ยกระดับปฏิบัติการด้านการทหารในฉนวนกาซาอีกครั้ง
อิสราเอลได้ทำการโจมตีทางอากาศใส่ฉนวนกาซาหลายแห่งตั้งแต่ตอนเหนือ กลาง และใต้ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 23 มีนาคม กลุ่มฮามาสได้ออกแถลงการณ์ว่าอิสราเอลอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนายอัล-บาร์ดาวิลที่เสียชีวิตขณะละหมาดกับภรรยาในเต็นท์หลบภัยในเมืองข่านยูนิส
กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ให้ข้อมูลว่า การโจมตีของอิสราเอลในหลายพื้นที่ของกาซาตลอดช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 32 คน
อิสราเอลเริ่มกลับมาทำการโจมตีใส่ฉนวนกาซาอย่างหนักอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา หลังอิสราเอลอ้างว่ากลุ่มฮามาสทิ้งข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มกราคมที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน แต่กลุ่มฮามาสได้บอกว่าอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ลงนามกันไว้ที่มีสหรัฐ กาตาร์ และอียิปต์เป็นตัวกลางในการเจรจา เพราะอิสราเอลปฏิเสธที่จะเริ่มการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงขั้น 2 เพื่อนำไปสู่การยุติสงครามและให้อิสราเอลถอนกำลังออกจากฉนวนกาซา แม้ว่ากลุ่มฮามาสบอกว่ายังมีความประสงค์ที่จะเจรจาและกำลังศึกษาข้อเสนอของนายสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฝ่ายกิจการตะวันออกกลางเพื่อประสานจุดยืนที่ต่างกันของทั้งสองฝ่าย
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลระบุว่า เป้าหมายหลักของการทำสงครามคือการทำลายกลุ่มฮามาสและเป้าหมายใหม่ของการทำสงครามคือการกดดันให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่ยังเหลืออยู่ในกาซา
จนถึงตอนนี้ การโจมตีของอิสราเอลได้ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 49,000 คน ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ และทำลายอาคารบ้านเรือนเกือบทั้งหมดในกาซา ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์หลายแสนคนต้องอาศัยอยู่ในเต็นท์
