สหรัฐขึ้นบัญชีดำบ.จีนเพียบ หวังสกัดปักกิ่งพัฒนาเทคโนโลยี-กองทัพ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่าได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทที่จะถูกจำกัดด้านการส่งออก แก่บริษัทและสถาบันจำนวนประมาณ 80 แห่ง โดยในจำนวนนี้ 50 แห่งเป็นบริษัทในประเทศจีน ซึ่งรวมถึง 6 บริษัทย่อยของ Inspur Group บริษัทผู้ให้บริการด้าน Cloud Computing และ Big Data ยักษ์ใหญ่ของจีน
ทั้งนี้ บริษัทอีก 30 แห่งที่ถูกขึ้นบัญชีดำดังกล่าวตั้งอยู่ในไต้หวัน อิหร่าน ปากีสถาน แอฟริกาใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐระบุว่าการขึ้นบัญชีดำบริษัทย่อยของ Inspur Group มีจุดประสงค์เพื่อจำกัดขีดความสามารถของจีนในการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง เทคโนโลยีควอนตัม เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และขัดขวางการพัฒนาโครงการอาวุธความเร็วเหนือเสียงของจีน เพราะบริษัทย่อยดังกล่าวของ Inspur Group มีส่วนในการพัฒนาซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ให้กับกองทัพจีน โดยก่อนหน้านี้ทางกระทรวงได้ขึ้นบัญชีดำ Inspur Group ไปแล้วเมื่อปี 2023
นายฮาวเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐกล่าวว่า เราจะไม่อนุญาตให้ฝ่ายตรงข้ามของเราใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของอเมริกันในการพัฒนากองทัพของพวกเขาเองและมาเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตชาวอเมริกัน ด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุว่า ทางสถานทูตคัดค้านการกระทำดังกล่าวของสหรัฐ
นอกจากนั้น สหรัฐยังต้องการที่จะรบกวนอิหร่านในการจัดหาโดรนและสิ่งของอื่นๆ ด้านความมั่นคง รวมถึงขัดขวางการพัฒนาขีปนาวุธทิ้งตัวของอิหร่าน
การที่รัฐบาลสหรัฐใส่ชื่อบริษัทเหล่านี้ลงในรายชื่อนิติบุคคลของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจากความกังวลด้านความมั่นคงของชาติหรือนโยบายต่างประเทศ จะทำให้บริษัทต่างๆ ไม่สามารถขายสินค้าให้กับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อดังกล่าวได้หากไม่มีใบอนุญาตซึ่งก็มีโอกาสสูงที่จะถูกปฏิเสธการออกใบอนุญาตเช่นกัน
นอกจากบริษัทย่อยของ Inspur Group แล้ว บริษัทอื่นๆ ของจีน อาทิ Nettrix Information Industry, Suma Technology และ Suma-USI Electronics ยังถูกขึ้นบัญชีดำด้วยเช่นกันโดยสหรัฐให้เหตุผลว่าบริษัทเหล่านี้ช่วยเหลือในการพัฒนาซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีนที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว