อิสราเอลสั่งให้ประชาชนในกาซาอพยพด่วน จ่อโจมตีฮามาส
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม กองทัพอิสราเอลประกาศให้ประชาชนในราฟาห์และคานยูนิสที่อยู่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาอพยพออกจากพื้นที่ ไปที่เขตมนุษยธรรมอัล-มาวาซี นับการอพยพครั้งใหญ่ที่สุดหลังจากที่อิสราเอลกลับมาปฏิบัติการโจมตีกาซาภาคพื้นดินและอากาศอีกครั้งเมื่อวันที่ 18 มีนาคม โดยอ้างว่าฮามาสปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของสหรัฐ รวมถึงไม่ปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลจำนวน 59 ราย
พร้อมกับเตือนว่า กองทัพอิสราเอลจะกลับมาโจมตีองค์กรก่อการร้ายในพื้นที่อีกครั้ง ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์ที่กลับไปที่ราฟาห์เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่อิสราเอลและฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิง อพยพออกจากพื้นที่
อย่างไรก็ดี สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การอพยพนั้นขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และระบุอีกว่า อิสราเอลละเลยในการดำเนินการจัดหาที่พักแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ หรือรับรองสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสมในด้านสุขอนามัย สุขภาพ ความปลอดภัยและโภชนาการ
ทั้งนี้ รัฐบาลอิสราเอลเน้นย้ำว่า การสั่งการอพยพในครั้งนี้เป็นการปกป้องพลเมืองจากกลุ่มฮามาส ที่ได้ใช้พวกเขาเป็นกำแพงมนุษย์เพื่อละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้ง ก่อนหน้านี้กองทัพอิสราเอลยืนยันว่า กำลังทำทุกวิธีทางเพื่อไม่ให้มีผู้เสียชีวิต
กระนั้นก็ดี กระทรวงสาธารณสุขฮามาสกล่าวว่า ตั้งแต่การปฏิบัติการโจมตีกลับมาเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง มีประชาชนประมาณ 1,000 รายเสียชีวิต
ในขณะเดียวกัน สหประชาชาติระบุว่า เสบียงอาหารและยาสำหรับประชากรจำนวน 2.1 ล้านคนกำลังจะหมดลง เนื่องจากอิสราเอลขัดขว้างการขนส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม
