ทรัมป์ป่วนโลก หุ้นผันผวนหนัก หลังประกาศขึ้นภาษีคู่ค้าทุกประเทศ ทองพุ่งทุบสถิติ
หลัง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ส่งสัญญานเกี่ยวกับการขึ้นภาษีศุลกากรต่างตอบแทนว่า เขามีแผนการที่จะเก็บภาษีกับคู่ค้าทุกประเทศของสหรัฐ หลังจากที่เขาแสดงท่าทีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บอกว่าหลายประเทศอาจได้รับการยกเว้นภาษี แต่ในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม ทรัมป์บอกกับนักข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันว่า การเก็บภาษีจะเริ่มพร้อมกันทุกประเทศ
ทั้งนี้ ทรัมป์กำหนดที่จะประกาศภาษีศุลกากรต่างตอบแทนในวันที่ 2 เมษายนนี้ ที่เขาระบุว่ามันเป็น “วันแห่งการปลดปล่อย” ของอเมริกา ท่าทีล่าสุดของทรัมป์ทำให้ความคาดหมายว่า การขึ้นภาษีต่างตอบแทนจะจำกัดเพียงกับประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐล่มสลายไป โดยในวันที่ 3 เมษายน ภาษี 25% ต่อรถยนต์นำเข้าสหรัฐจะมีผลบังคับใช้
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลงตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์แล้ว โดยดัชนีเอสแอนด์พี500 รวงลงเกือบ 10% ขณะที่เดือนมีนาคมกลายเป็นเดือนที่แย่ที่สุดสำหรับตลาดหุ้น โดยดัชนีแนสแดกร่วงลงมากกว่า 10% ถือเป็นไตรมาสที่ผลประกอบการแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2022
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นโลกร่วงอย่างหนักทันทีในการเปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม อย่างไรก็ดีแม้ตลาดหุ้นสหรัฐจะเปิดตลาดร่วงหนัก แต่เมื่อปิดตลาดดัชนีอุตสหกรรมดาวโจนส์ปรับขึ้น 1% มาที่อยู่ 42,001.76 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปรับขึ้น 0.55% ที่ 5,611.85 จุด ส่วนดัชนีแนสแดกยังลดลง 0.14% มาอยู่ที่ 17,299.29 จุด
ดัชนี STOXX 600 ของยุโรปร่วงลง 1.51% สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 สัปดาห์ ขณะที่ดัชนีหลักทั้งดัชนี GDAXI ในแฟรงค์เฟิร์ต ดัชนี FTSE ในลอนดอน และดัชนี FCHI ในปารีส ลดลงในระหว่าง 1.7%-2% ส่วนดัชนี MSCI ที่ครอบคลุมหุ้นเอเชียแปซิฟิกนอกญี่ปุ่น ลดลง 1.9%
นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs มองว่ามีโอกาสที่สหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย 35% เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ 20% โดยคาดว่าทรัมป์จะประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากคู่ค้าของสหรัฐทั้งหมดในอัตราเฉลี่ย 15% ในวันที่ 2 เมษายน
ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม เน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอย เนื่องจากเงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ สวนทางกับตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลง และยังต้องจับตาดูรายงานการจ้างงานในเดือนมีนาคมที่จะมีการเผยแพร่ในวันศุกร์ที่ 4 เมษายนนี้ หากการจ้างงานใหม่ต่ำกว่า 140,000 ตำแหน่งก็จะยิ่งเพิ่มความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยมากขึ้นไปอีก
ขณะที่ทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยก็แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,128.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2% ปิดที่ 3,150.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเปิดตลาด แต่กลับแข็งค่าขึ้นในภายหลัง ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหยทอ พุ่งขึ้น 1.5% ปิดที่ 74.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับขึ้น 3.1% ปิดที่ 71.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากผู้ซื้อน้ำมันรัสเซีย หากรัสเซียขัดขวางความพยายามที่จะยุติสงครามในยูเครนของทรัมป์