คะแนนนิยม ‘ทรัมป์’ ร่วงเหลือ 43% ต่ำสุดตั้งแต่รับตำแหน่ง หลังมะกันชนเซย์โนแผนขึ้นภาษี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้ลดลง 2% จากในเดือนมีนาคม ร่วงลงเหลือ 43% ในโพลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของรอยเตอร์/อิปซอส ที่จัดทำระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน ถือเป็นคะแนนนิยมต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่ทรัมป์กลับเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการจัดการเศรษฐกิจของทรัมป์
คะแนนนิยมล่าสุดของทรัมป์ที่ 43% ถือว่าต่ำกว่าคะแนนนิยมของเขาเมื่อกลับเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมที่ขณะนั้นเขามีคะแนนนิยมอยู่ที่ 47% ผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 37% เห็นด้วยกับบริหารเศรษฐกิจของทรัมป์ และมีเพียง 30% เท่านั้นที่เห็นด้วยกับการทำงานของทรัมป์ในการแก้ปัญหาค่าครองชีพสูง
ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม 52% เห็นด้วยกับข้อความที่ว่าการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ ของทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อผู้คน และประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ที่ตอบแบบสอบถามมีความเห็นว่าการขึ้นภาษีศุลกากรจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี โดยชาวอเมริกันประมาณ 1 ใน 3 ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่สนับสนุนพรรครีพับลิกันของทรัมป์ ไม่เห็นด้วยกับข้อความที่ว่าภาษีศุลกากรจะเป็นผลเสีย
นอกจากนั้น ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยังมองว่ารัฐบาลทรัมป์จัดการกับความลับทางการทหารอย่างไม่ถูกต้อง หลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวอื้อฉาวว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐได้พูดคุยเรื่องแผนการโจมตีประเทศเยเมนผ่านทางแอพพลิเคชั่น Signal และเผลอเพิ่มบัญชีของนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปในกลุ่มแชทดังกล่าวด้วย โดยผู้ตอบแบบสอบถามราว 74% มองว่าการถกเถียงเรื่องแผนการโจมตีทางทหารในลักษณะดังกล่าวถือเป็นความเสี่ยง และอีก 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยว่าทรัมป์ควรออกมารับผิดชอบกับเรื่องดังกล่าว
ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามแค่ 34% เห็นด้วยกับการจัดการนโยบายต่างประเทศของทรัมป์ ลดลงจากเดิมที่ 37% ในแบบสอบถามที่จัดทำระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม และผู้ตอบแบบสอบถาม 48% เห็นด้วยกับการรับมือเกี่ยวกับผู้อพยพของทรัมป์
โพลสำรวจล่าสุดของรอยเตอร์/อิปซอสถูกจัดทำผ่านทางออนไลน์และครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมีผู้ตอบแบบสอบถาม 1,486 คนและมีค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ 3%