จีนเอาคืน! ทำสงครามการค้าดุเดือด ประกาศขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐทุกประเภท เพิ่มอีก 34%
เมื่อวันที่ 4 เมษายน กระทรวงการคลังจีนแถลงว่า จะเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐเพิ่มเติมจากมาตรการภาษีเดิมอีก 34% และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 เมษายนที่จะถึงนี้ โดยแถลงว่า “วัตถุประสงค์ของรัฐบาลจีนในการควบคุมการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายนั้นก็เพื่อปกป้องความมั่นคงและผลประโยชน์ของประเทศ รวมทั้งเป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ เช่น การไม่ใช่อาวุธโจมตี”
ในขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศควบคุมสินค้าจากบริษัทในสหรัฐ 16 แห่ง และได้เพิ่มรายชื่อบริษัท 11 แห่ง เป็นบริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือด้วย นอกจากนั้น ยังได้ประกาศควบคุมการส่งออกแร่หายาก ซึ่งรวมถึงแซมาเรียม แกโดลิเนียม เทอร์เบียม ดิสโพรเซียม ลูทีเชียม สแกนเดียม และอิตเทรียม ไปยังสหรัฐ และจะมีบังคับใช้ในวันที่ 4 เมษายน โดยแร่หายากถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในเทคโนโลยีระดับสูงอย่าง ชิปคอมพิวเตอร์และแบตเตอรี่รถยนต์ อีกทั้งแซมาเรียมนั้นถูกใช้ในการผลิตในอุตสาหกรรมอวกาศและการป้องกันประเทศ ขณะที่แกโดลิเนียมถูกใช้ในการสแกนเอ็มอาร์ไอ
พร้อมระบุอีกว่า “มาตรการภาษีต่างตอบแทนของสหรัฐถือเป็นการละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก (WTO) อย่างร้ายแรง สร้างความเสียหายต่อสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศสมาชิก WTO บั่นทอนระบบการค้าพหุภาคีที่ให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์ ตลอดจนระเบียบเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ”
นอกจากนั้น ศุลกากรของจีนได้ระงับการนำเข้าเนื้อไก่จากบริษัทในสหรัฐ 2 ราย ได้แก่ Mountaire Farms of Delaware และ Coastal Processing โดยระบุว่าได้ตรวจสอบสารฟูราโซลิโดน ซึ่งเป็นยาที่ห้ามใช้ในจีนหลายครั้ง
สำนักข่าว เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 เมษายน กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงประณามมาตรการของสหรัฐว่า “เป็นการรังแกโดยฝ่ายเดียว” พร้อมกับขอให้รัฐบาลสหรัฐยกเลิกมาตรการภาษีโดยทันที และแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกับประเทศคู่ค้า
หลังจากที่จีนประกาศว่าจีนดำเนินการตอบโต้ ตลาดหุ้นสหรัฐเผชิญกับความผันผวนในทันที S&P500 ร่วง 1.24% ขณะที่ Nasdaq100 ลดลง 1.22% และ Dow ร่วง 1.41% ในขณะเดียวกัน การซื้อขายหุ้นของ STOXX600 ร่วง 3.1% ด้วย