ม็อบลงถนนประท้วงทั่วสหรัฐ ทำเนียบขาวแจงจุดยืนทรัมป์ชัดเจน ปกป้องชาวมะกัน

AP

ม็อบลงถนนประท้วงทั่วสหรัฐ ทำเนียบขาวแจงจุดยืนทรัมป์ชัดเจน ปกป้องชาวมะกัน

เมื่อวันที่ 5 เมษายน เกิดเหตุประชาชนลงถนนประท้วงในหลายพื้นที่ของสหรัฐ โดยองค์กรสิทธิมนุษยชน สหภาพแรงงาน นักขับเคลื่อนสิทธิ LGBTQ+ ทหารผ่านศึกและนักกิจกรรมการเลือกตั้งจัดการชุมนุมที่ใช้ชื่อว่า Hands Off! หรือเอามือออกไป! ขึ้น ซึ่งมีสถานที่ชุมนุมกว่า 1,200 แห่งในทุก 50 รัฐ เพื่อประท้วงการดำเนินการเชิงนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และนายอีลอน มัสก์ ผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ที่ส่งผลกระทบต่อการขนาดภาครัฐ เศรษฐกิจ ผู้อพยพ และสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ ในเบื้องต้น การชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบและยังไม่มีรายงานการจับกุมผู้ประท้วง

ที่หอคอยสเปซนีเดิลในซีแอตเทิล ผู้ประท้วงถือป้ายข้อความระบุว่า “ต่อสู้กับคณาธิปไตย” นอกจากนั้น มีประชาชนลงถนนประท้วงที่พอร์ตแลนด์ ออริกอนและลอสแอนเจลิส และมีการเดินขบวนจากเพิร์ชชิงสแควร์ไปที่ซิตี้ฮอลล์ด้วย

ที่การประท้วงในแนชั่นนอลมอลล์ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เคลลี่ โรบินสัน ประธานองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน วิจารณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐปฏิบัติต่อชุมชน LGBTQ+ อย่างไม่ถูกต้อง พร้อมกล่าวว่า “การโจมตีที่พวกเราเห็นในตอนนี้ไม่ได้มีนัยทางการเมือง แต่เป็นเรื่องส่วนตัว รัฐบาลพยายามที่จะแบนหนังสือของเรา ตัดงบประมาณรักษาผู้ป่วยโรค HIV และได้ก่ออาชญากรรมต่อแพทย์ คุณครู ครอบครัวและชีวิตของพวกเรา” และกล่าวด้วยว่า “พวกเราไม่ต้องการสหรัฐในสภาพนี้ พวกเราต้องการสหรัฐในรูปแบบที่พวกเราควรจะได้รับ ซึ่งเป็นสถานที่เกียรติยศ ความปลอดภัยและเสรีภาพเป็นของคนทุกคน” นอกจากนั้น สมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตได้ขึ้นเวทีประท้วงที่แนชั่นนอลมอลล์ด้วย

ADVERTISMENT

ในขณะเดียวกัน ที่บอสตัน มีการถือป้ายประท้วงระบุข้อความว่า “เอามือออกไปจากประชาธิปไตย” และ “เอามือออกไปจากประกันสังคม” โดยมิเชล วู นายกเทศมนตรีกล่าวว่า เธอไม่ต้องการให้ลูกๆ ของเธออาศัยอยู่ในโลกที่การคุกคามและการกดขี่เป็นกลยุทธ์ของรัฐบาล และคุณค่าทางสังคมอย่างความหลากหลายและความเท่าเทียมนั้นถูกโจมตี วูกล่าวด้วยว่า “ฉันขอปฏิบัติการที่ลูกๆ ของฉันต้องโตมาในโลกที่ผู้อพยพอย่างคุณตาคุณยายของพวกเขาถูกตีตราในทันทีว่าเป็นอาชญากร”

นอกจากนั้น ที่อาคารรัฐสภาที่โคลัมบัส นายโรเจอร์ บลูม วัย 66 ปี ซึ่งเปิดเผยว่าเป็นสนับสนุนพรรครีพับลิกันของอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ แรแกน กล่าวว่า “ทรัมป์ทำให้ประเทศแตกหักเป็นเสี่ยงๆ นี่เป็นรัฐบาลที่อยุติธรรม” อีกทั้ง ที่ปาล์มบีชการ์เด้นท์ ฟลอริดา อาเชอร์ มอร์แรน กล่าวว่า “รัฐบาลต้องเอามือออกไปจากประกันสังคม มันน่ามหัศจรรย์มากที่การประท้วงเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี”

ADVERTISMENT

ด้านทำเนียบขาวแถลงว่า “จุดยืนของประธานาธิบดีทรัมป์นั้นชัดเจน โดยจะปกป้องประกันสังคม รวมถึงโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาลสำหรับผู้มีสิทธิได้รับผลประโยชน์ ในขณะที่พรรคเดโมแครตทำให้ความมั่นคงทางสังคมและโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาลเป็นประโยชน์ต่อแรงงานต่างด้าว ซึ่งทำให้โครงการเหล่านี้ล้มละลายและส่งผลกระทบในแง่ลบต่อผู้สูงอายุชาวอเมริกัน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image