นิเคอิเปิดตลาดพุ่ง 5.5% หุ้นโลกยังผันผวนหนัก น้ำมันร่วงหนักสุดรอบ 4 ปี
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 8 เมษายน โดยดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นถึง 5.5% หลังจากร่วงลงเกือบ 8% เมื่อหนึ่งวันก่อนหน้า โดยแตะระดับ 32,819.08 จุด เพียงครึ่งชั่วโมงหลังตลาดเปิดทำการ
เช่นเดียวกับดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ที่พุ่งขึ้น 2% ตลาดหุ้นในนิวซีแลนด์และออสเตรเลียก็ปรับตัวสูงขึ้นหลังเปิดตลาดในเช้าวันอังคารเช่นกัน
การปรับขึ้นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นเอเชียพาร่วงลงในวันจันทร์ โดยหุ้นในฮ่องกงร่วงลงไป 13.2% ถือเป็นวันเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1997 ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย
การดีดตัวกลับของหุ้นเอเชียมีขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลงอย่างหนักในวันจันทร์ โดยดัชนี S&P 500 ปิดตลาดลดลง 0.2% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 349 จุด หรือ 0.9% และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 0.1%
ดัชนีทั้งสามตัวเริ่มต้นวันด้วยการลดลงอย่างรวดเร็ว โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงมากถึง 1,700 จุด ซึ่งมากกว่าที่ตลาดหุ้นอื่นในโลก แต่ดัชนีกลับพุ่งขึ้นอย่างกะทันหันเกือบ 900 จุดในช่วงสายของวัน ขณะที่ดัชนี S&P 500 ก็ปรับจากลดลง 4.7% พลิกกลับเป็นเพิ่มขึ้น 3.4% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
การปรับขึ้นอย่างกะทันหันดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงว่า ทรัมป์กำลังพิจารณาที่จะระงับการขึ้นภาษีเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งทำเนียบขาวรีบโพสต์บน X ว่า มันเป็น “ข่าวปลอม”
อย่างไรก็ดี ข่าวลือดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และยังแสดงให้เห็นว่านักลงทุนคาดหวังมากเพียงใดที่จะอยากเห็นสัญญาณว่า ทรัมป์อาจผ่อนปรนมาตรการภาษีครั้งใหญ่ที่เขาประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก
ไม่นานหลังจากที่หุ้นร่วงลงอย่างรวดเร็ว ทรัมป์ก็ประกาศอีกว่า เขาอาจขึ้นภาษีกับจีนอีก 50% หลังจากจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกประกาศมาตรการตอบโต้ ด้วยการกำหนดภาษีกับสินค้าของสหรัฐที่ส่งออกมายังจีนซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์นี้
ในภาพรวมดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกยังคงผันผวนระหว่างการขาดทุนและการได้กำไรในวันจันทร์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนยังคงหวังว่า การเจรจาอาจช่วยระงับการบังคับใช้ภาษีศุลกากรที่เข้มงวดกับสินค้านำเข้ามายังสหรัฐทั้งหมด
สิ่งเดียวที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงคือความเจ็บปวดทางการเงินที่กระทบต่อการลงทุนทั่วโลกเป็นวันที่ 3 หลังจากที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรต่างตอบแทนใน “วันปลดปล่อย” ของเขา
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี โดยราคาซื้อขายล่วงหน้า น้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือ ร่วงลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 64.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ร่วงลง 1.29 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 60.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำร่วงลงเช่นกัน โดยราคาทองคำลดลง 2.4% ปิดที่ 2,963.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้าน Bitcoin ก็ร่วงลงต่ำกว่า 79,000 ดอลลาร์ จากที่เคยแตะระดับสูงสุดที่สูงกว่า 100,000 ดอลลาร์ในเดือนมกราคม
