สิงคโปร์ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจหนุนภาคเอกชน บรรเทาผลกระทบภาษีทรัมป์

สิงคโปร์ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจหนุนภาคเอกชน บรรเทาผลกระทบภาษีทรัมป์

สำนักข่าวแชนเนลนิวส์เอเชียรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสิงคโปร์ กล่าวถ้อยแถลงที่รัฐสภาว่า จะจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อสนับสนุนภาคเอกชน รวมถึงลูกจ้างที่อาจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐ โดยมีแนวโน้มว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว และกระทบต่อความสามารถในการจ้างงาน ไปจนถึงค่าแรงขั้นต่ำด้วย

โดยคณะทำงานเฉพาะกิจจะมีนายแกน คิมยง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม ทำหน้าที่เป็นประธาน และจะประกอบไปด้วยตัวแทนจากหน่วยงานทางเศรษฐกิจ สหพันธ์ธุรกิจสิงคโปร์ สหพันธ์นายจ้างแห่งชาติสิงคโปร์และสภาแรงงานแห่งชาติ

หว่องกล่าวเพิ่มว่า ภารกิจสำคัญของคณะทำงานดังกล่าวคือการช่วยเหลือภาคเอกชนและลูกจ้างในการรับมือกับความไม่แน่นอน ส่งเสริมขีดความสามารถในการฟื้นคืนจากอุปสรรค และปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในลักษณะใหม่

ADVERTISMENT

พร้อมระบุอีกว่า มาตรการภาษีนำเข้าจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเกิดการชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์การบริโภคสินค้าจากต่างประเทศ จากนั้นก็จะกระทบต่อภาคธุรกิจในประเทศที่พึ่งพาการส่งออก เช่น ภาคการผลิตและการค้าปลีก อีกทั้ง ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นรวมถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบริการบางส่วน อาทิ ภาคการเงินและการประกันภัย

“การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเท่ากับโอกาสในการจ้างงานที่ลดลง ทั้งยังจะทำให้การปรับขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำมีตัวเลขที่ต่ำลงด้วย หากมีบริษัทที่เผชิญกับความยากลำบากเพิ่มขึ้น หรือแม้แต่ย้ายฐานการผลิตไปที่สหรัฐ ก็จะทำให้เศรษฐกิจถดถอยและอัตราการว่างงานสูงขึ้น” หว่องกล่าว

ADVERTISMENT

ด้านรองนายกฯ แกนกล่าวว่า คณะทำงานเฉพาะกิจในการนี้มุ่งเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือด้านการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนข้อมูล พร้อมระบุด้วยว่า การที่คณะทำงานฯ มีสหภาพแรงงานอยู่ด้วยเป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่า มาตรการภาษีจะส่งผลกระทบต่ออัตราการว่างงานในสักระยะหนึ่ง หรืออาจจนถึงระยะยาว ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ตัวแทนของภาคเอกชนจะช่วยสนับสนุนคณะทำงานฯ ให้สามารถเข้าถึงผู้ประกอบธุรกิจ และเข้าใจในเรื่องความท้าทายที่เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง

แกนกล่าวเสริมว่า ทางรัฐบาลได้ทำการประสานงานให้ประเทศคู่ค้าของสิงคโปร์ประเมินสถานการณ์และหาแนวทางในการทำงานร่วมกันแล้วด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image