เวียดนามประกาศซื้ออาวุธสหรัฐเพิ่ม ขอเลื่อนวันเก็บภาษีออกไป 45 วัน
เมื่อวันที่ 7 เมษายน นายฟาม มิน ชินห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม แถลงว่า จะดำเนินการซื้อสินค้าจากสหรัฐในจำนวนที่มากขึ้น ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ด้านการทหารและความมั่นคง พร้อมกับขอให้สหรัฐเลื่อนวันที่มาตรการเก็บภาษีมีผลบังคับใช้ออกไปอีก 45 วัน
แถลงการณ์ระบุอีกว่า เวียดนามกำลังพยายามที่จะเจรจากับสหรัฐเพื่อให้เกิดการค้าที่สมดุลและยั่งยืน ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย และกำลังพิจารณาในเรื่องนโยบายการเงิน อัตราการแลกเปลี่ยน ยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้า ไปพร้อมกับการตรวจสอบที่มาของสินค้าให้ถูกจริยธรรมด้วย
นอกจากนั้น ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายกฯ เวียดนามกล่าวด้วยว่า จะหาหนทางที่จะทำให้เครื่องบินเวียดนามแอร์ไลน์สั่งซื้อสหรัฐไป สามารถถูกจัดส่งมาให้ได้เร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกัน นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาทางการค้าของทำเนียบขาว กล่าวว่า เวียดนามมีปัญหาในเรื่องการลักลอบการขนส่งสินค้าจากจีน การทุ่มสินค้าประมงและสินค้าอื่นๆในตลาด รวมถึงปัญหาทรัพย์สินทางปัญญา โดยกล่าวว่า “เวียดนามละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา นอกจากจีนแล้วนั้น เวียดนามมีกรณีจำนวนมากในเรื่องการทุ่มสินค้าในตลาด”
ต่อมา ในวันที่ 8 เมษายน รัฐบาลเวียดนามออกแถลงทันทีว่า กำลังพิจารณาในเรื่องการแก้ไขข้อตกลงทางการค้า โดยจะเพิ่มเรื่องมาตรการภาษีและทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มเติมไปด้วย
ทั้งนี้ เวียดนามเป็นฐานการผลิตของบริษัทชาติตะวันตกจำนวนมาก โดยมีสหรัฐเป็นตลาดการส่งออกอันดับ 1 กระนั้นก็ดี มาตรการภาษีต่างตอบแทนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทำให้เวียดนามต้องเผชิญกับอัตราภาษีถึง 46% โดยมูลค่าการเกินดุลการค้าคิดเป็นตัวเลข 123,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ