กุแตเรซลั่น กาซาเป็น “ทุ่งสังหาร” หน่วยงานยูเอ็นวอนโลกตอบโต้ปมยิวขวางส่งเสบียง
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า “กาซาเป็นทุ่งสังหาร และประชาชนกำลังอยู่ในวงจรของความตายที่ไม่มีที่สิ้นสุด”
พร้อมกล่าวถึงกรณีที่อิสราเอลขัดขวางการส่งเสบียงและความช่วยเหลือจากการปิดทางเข้ากาซาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกหมดอายุ และกลับมาโจมตีทางบกและทางอากาศเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ซึ่งทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 1,449 ราย ว่า “ความช่วยเหลือนั้นหมดไป และความโหดร้ายกำลังกระหน่ำเข้ามาอีกครั้ง”
กุแตเรซกล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า อิสราเอลจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศในการทำให้ประชาชนสามารถได้รับอาหารและยา กระนั้นก็ดี กระทรวงต่างประเทศอิสราเอลเน้นย้ำว่า ในกาซามีอาหารเพียงพอและกล่าวหากุแตเรซว่า ใส่ร้ายอิสราเอล และการช่วยเหลือไม่ได้ขาดแคลนในกาซาแต่อย่างใด
โอเรน มาร์มอร์สไตน์ (Oren Marmorstein) โฆษกของกระทรวง กล่าวว่า “อย่าให้การใส่ร้ายอิสราเอลมาขัดขวางความจริงที่เกิดขึ้น การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกาซาไม่ได้ขาดแคลน มีรถบรรทุกเสบียงความช่วยเหลือเข้ามาในกาซากว่า 25,000 คัน ตลอด 42 วันระหว่างการหยุดยิง”
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 เมษายน หน่วยงานภายใต้สหประชาชาติ 6 แห่ง ได้แก่ สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) โครงการอาหารโลก (WFP) องค์การอนามัยโลก (WHO) สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) และ สำนักงานบริการโครงการแห่งสหประชาชาติ (UNOPS) ออกแถลงการณ์ร่วม ร้องขอให้ผู้นำของแต่ละประเทศร่วมดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าอาหารและความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงชาวปาเลสไตน์ได้
แถลงการณ์ระบุว่า “ระบบสาธารณสุขนั้นมีผู้ป่วยเยอะเกินไป ยาที่จำเป็นและอุปกรณ์ทางการแพทย์ฉุกเฉินก็กำลังจะหมดลง จากการที่อิสราเอลปิดทางเข้ากาซาเป็นเดือนที่สอง พวกเราขอให้ผู้นำของแต่ละประเทศดำเนินการในเรื่องนี้อย่างมุ่งมั่น เร่งด่วนและเฉียบขาด เพื่อส่งเสริมกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” พร้อมกล่าวอีกว่า “ปกป้องพลเมือง ให้ความช่วยเหลือ ปล่อยตัวประกัน บรรลุข้อตกลงหยุดยิงฉบับใหม่”