มาริษยัน กต.มีบทบาทสำคัญ วางแผนรับมือภาษีทรัมป์ตั้งแต่ต้น ย้ำ รบ.พร้อมรับมือ

มาริษยัน กต.มีบทบาทสำคัญ วางแผนรับมือภาษีทรัมป์ตั้งแต่ต้น ย้ำ รบ.พร้อมรับมือ

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำถึงการเตรียมความพร้อมรับมือต่อมาตรการกำแพงภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า กระทรวงการต่างประเทศ มีบทบาทในกระบวนการเจรจาตั้งแต่ต้น ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศมาตรการทางภาษี เนื่องจากมาตรการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ดังนั้น จึงให้คำยืนยันได้ว่า รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก

สำหรับบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศนั้น นายมาริษชี้แจงว่า ได้มอบหมายให้นางใจไทย อุปการนิติเกษตร รักษาการอธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมคณะทำงานของรัฐบาล ที่มีนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ในการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลมีการเตรียมพร้อมสำหรับมาตรการรับมือต่างๆ รวมถึงการคาดการณ์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไว้ก่อนแล้ว

นายมาริษยังกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศยังมีนายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นทีมเจรจา และมีบทบาทสำคัญในการประสานและสนับสนุนการเจรจาของรัฐบาลไทยกับสหรัฐ ซึ่งเอกอัครราชทูตไทย มีบทบาทในการดำเนินความสัมพันธ์ในทุกมิติกับสหรัฐไม่เพียงเรื่องการค้า แต่ยังมีเรื่องของความมั่นคงและการทหารที่กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญอย่างมาก ไทยและสหรัฐมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และมีการพูดคุย รวมถึงเข้าไปโน้มน้าวเจรจาหน่วยงานต่างๆ ของสหรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกมิติ ไม่เพียงแต่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังมีที่ปรึกษาของประธานาธิบดี กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงกลาโหม หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงเกษตร เป็นต้น

ADVERTISMENT

นายมาริษย้ำว่า บทบาทของกระทรวงการต่างประเทศในการเจรจาเรื่องนี้จึงไม่ได้อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังอยู่ในสหรัฐด้วย เพราะมาตรการภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐส่งผลกระทบต่อทุกประเทศทั่วโลก กระทบต่อการค้า และผู้ประกอบการในวงกว้าง ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศและทุกหน่วยงานของไทยล้วนมีบทบาทสำคัญ และต้องร่วมมือกันเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้

ส่วนกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนได้ต่อสายหารือกับผู้นำ 4 ชาติในอาเซียน เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา แต่ไม่มีไทยอยู่ในวงนี้ด้วยนั้น นายมาริษยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ติดต่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในวันถัดมา ซึ่งผู้นำจะมีการติดต่อหารือกันอยู่ตลอดอยู่แล้ว

ADVERTISMENT

สำหรับมาตรการของไทยที่เตรียมไว้นั้น นายมาริษกล่าวว่า เป็นท่าทีที่สำคัญของรัฐบาลที่จะใช้ในการต่อรองกับสหรัฐ ดังนั้นจึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะแต่ละประเทศได้รับผลกระทบแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ ท่าที และการเจรจาต่อรองจึงแตกต่างกัน แต่ย้ำว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยจะเจรจาต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของประเทศให้ได้มากที่สุด

นายมาริษกล่าวด้วยว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้จัดตั้งทีมงานของรัฐบาลเพื่อเตรียมรับมือกับมาตรการภาษีดังกล่าว โดยสามารถคาดการณ์แนวโน้มได้ล่วงหน้า ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายให้รักษาการอธิบดีกรมอเมริกาอยู่ในคณะทำงานดังกล่าวของรัฐบาลในการเตรียมความพร้อมอย่างใกล้ชิด

นายมาริษยังเชื่อว่า ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานและแน่นแฟ้นกับสหรัฐ โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงและการทหาร และยังมีความตกลงระหว่างกันมากมาย เช่น สนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์ ที่เป็นรากฐานของความร่วมมือและความสัมพันธ์ จึงมั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเจรจา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image