เวียดนาม-สหรัฐ เห็นพ้อง เจรจาดีลการค้า-มุ่งขจัดอุปสรรค ฮานอยลั่น อำนวยความสะดวกนักลงทุนมะกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลเวียดนามแถลงเมื่อวันที่ 10 เมษายนว่า สหรัฐอเมริกาและเวียดนามตกลงที่จะเริ่มเจรจาความตกลงทางการค้าร่วมกัน โดยทั้งสองฝ่ายจะพิจารณาขจัดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ เวียดนามจะอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนให้กับนักลงทุนสหรัฐ รวมถึงจะเพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับการฉ้อโกงทางการค้าอีกด้วย
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายโฮ ดึ๊ก ฟ็อค รองนายกรัฐมนตรีของเวียดนาม ได้พบหารือกับนายเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ ที่กรุงวอชิงตันดี.ซี.ในวันก่อนหน้าและมีขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเลื่อนการใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทนกับประเทศที่เกินดุลการค้าสหรัฐออกไป 90 วัน ซึ่งรวมถึงเวียดนามที่เผชิญภาษีตอบโต้ของสหรัฐสูงถึง 46% ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกประเทศมีเวลาเจรจากับสหรัฐได้
ด้านผู้แทนการค้าสหรัฐโพสต์ลงโซเชียลมีเดียระบุว่าการหารือกับรองนายกรัฐมนตรีเวียดนามนั้นครอบคลุมถึงเรื่องการค้าต่างตอบแทนและโอกาสทางเศรษฐกิจอันกว้างขวางในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
ขณะที่ทำเนียบขาวสหรัฐระบุว่า แม้มาตรการภาษีต่างตอบแทนจะถูกระงับไว้ก่อน แต่ภาษีศุลกากรพื้นฐาน 10% ที่เรียกเก็บกับสินค้านำเข้าสู่สหรัฐเกือบทั้งหมดนั้นจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป และว่า “รัฐบาลทรัมป์จะยังคงมีส่วนร่วมกับพันธมิตรทางการค้าของเราเพื่อจัดการกับอุปสรรคทางการค้าและส่งเสริมนโยบายการค้าอเมริกาต้องมาก่อนของ@POTUSต่อไป”
ทั้งนี้เวียดนาม ซึ่งเป็นฐานการผลิตสำคัญในภูมิภาคสำหรับบริษัทเอกชนของชาติตะวันตกจำนวนมากนั้น ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐในปีที่แล้วมากกว่า 123,000 ล้านดอลลาร์ศหรัฐ โดยตลาดสหรัฐถือเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของเวียดนาม