อิสราเอลปิดล้อมราฟาห์เบ็ดเสร็จ กร้าวมุ่งเดินหน้าขยายดินแดน               

ชาวปาเลสไตน์รอรับความช่วยเหลือในกาซา / AP

อิสราเอลปิดล้อมราฟาห์เบ็ดเสร็จ กร้าวมุ่งเดินหน้าขยายดินแดน               

อิสราเอลประกาศเมื่อวันที่ 12 เมษายน ว่าประสบความสำเร็จในการสร้าง “ระเบียงความมั่นคง” ใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นแนวที่ตัดขาดเมืองราฟาห์ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ ออกจากพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของฉนวนกาซา

ด้านกองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) ระบุว่ พวกเขาจะเดินหน้าขยายปฏิบัติการทางทหารออกไปอย่างเข้มข้นในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของกาซาต่อไป โดยนายอิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า ปฏิบัติการจะขยายออกไปอย่างรวดเร็วในหลายจุดทั่วกาซา พร้อมบีบให้ชาวปาเลสไตน์ออกจากพื้นที่สู้รบ แต่ไม่ได้ระบุว่าพวกเขาควรจะอพยพไปอยู่ที่ใด

แถลงการณ์ของแคตซ์ยังเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์ขับไล่ฮามาส และปล่อยตัวประกันที่เหลืออยู่ ทั้งยังบอกด้วยว่า “นี่คือหนทางเดียวที่จะยุติสงคราม”

ADVERTISMENT

เมื่อสัปดาห์ก่อน กองทหารอิสราเอลถูกส่งไปประจำการยัง ระเบียงความมั่นคงใหม่ที่เรียกว่า “โมรัค” ซึ่งเป็นชื่อนิคมดั้งเดิมของชาวยิวที่ตั้งอยู่ระหว่างราฟาห์และข่านยูนิส หลังจากที่ไอดีเอฟได้สั่งอพยพครั้งใหญ่ในพื้นที่เกือบทั้งหมดของราฟาห์ ซึ่งเป็นสัญญานว่าอิสราเอลเตรียที่จะปฏิบัติการภาคพื้นดินครั้งใหญ่ในเร็วๆ นี้

ด้านเทศบาลเมืองราฟาห์ออกแถลงการณ์โดยเรียกการดำเนินการของอิสราเอลว่า เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง

ADVERTISMENT

ขณะที่อิสราเอลให้คำมั่นว่าจะยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของฉนวนกาซา เพื่อกดดันให้ฮามาสปล่อยตัวประกันที่เหลืออยู่ 59 คน ซึ่งเชื่อว่าในจำนวนนี้ 24 คนยังมีชีวิตอยู่ และเพื่อบีบให้ฮามาสยอมรับข้อตกลงหยุดยิงครั้งใหม่

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่า โมรัคจะกลายเป็นเหมือน “ระเบียงฟิลาเดลฟี” อันที่ 2 ที่หมายถึงพื้นที่ของฉนวนกาซาที่ติดกับชายแดนอียิปต์ ที่อิสราเอลเข้าควบคุมมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 นอกจากนี้อิสราเอลยังกลับมาควบคุมระเบียงเนตซาริม ซึ่งเป็นการตัดพื้นที่ตอนเหนือราว 1 ใน 3 ของกาซาออกจากพื้นที่อื่นๆ ด้วย

ทั้งนี้ เมื่อรวมพื้นที่ระเบียงความมั่นคงดังกล่าวเข้ากับเขตพื้นที่กันชนที่อิสราเอลได้ขยายออกไป ก็เท่ากับว่าอิสราเอลได้ควบคุมพื้นที่ของฉนวนกาซาไปมากกว่า 50% แล้ว

นอกจากความพยายามในการยึดครองพื้นที่ในกาซาเพิ่มขึ้นแล้ว รัฐบาลอิสราเอลยังได้สั่งปิดล้อมการส่งมอบความช่วยเหลือด้านอาหาร เชื้อเพลิง และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอื่นๆ ไปยังกาซามาเป็นเวลากว่า 1 เดือน ซึ่งทำให้ประชาการกว่า 2 ล้านคนในกาซาต้องเผชิญกับสภาวะขาดแคลนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นอย่างรุนแรง

ด้านองค์การสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า การกระทำของอิสราเอลเข้าข่ายการก่ออาชญากรรมสงคราม แต่อิสราเอลอ้างว่าความช่วยเหลือที่ถูกส่งไปในระหว่างหยุดยิง 2 เดือนก่อนหน้านี้ เพียงพอที่จะใช้ในกาซา ซึ่งองค์กรต่างๆ พากันออกมาโต้แย้งว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image