นายกฯญี่ปุ่นหวัง Expo 2025 Osaka ช่วยฟื้นโลกหนึ่งเดียว ท่ามกลางความขัดแย้ง-สงครามการค้า
ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในพิธีเปิดงานเอ็กซ์โปที่โอซาก้า เมื่อวันที่ 12 เมษายน โดยแสดงความคาดหวังว่างาน Expo 2025 Osaka จะช่วยฟื้นฟูความสามัคคีและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในโลก ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและสงครามการค้า
“โลกที่เพิ่งผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 กำลังถูกคุกคามจากความแตกแยกหลายรูปแบบ ในช่วงเวลาเช่นนี้ การที่ผู้คนจากทั่วโลกมารวมตัวกันที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องชีวิต และสัมผัสกับเทคโนโลยีล้ำสมัย แนวคิดที่หลากหลาย และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ถือเป็นสิ่งที่มีความหมายอย่างยิ่ง” อิชิบะกล่าว
งาน Expo 2025 Osaka จะเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์นี้ ภายใต้หัวข้อ “ชีวิต โลก และอนาคต” โดยญี่ปุ่นหวังว่าจะใช้งานนี้เป็นเวทีในการส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และแสดงให้เห็นภาพของสังคมแห่งอนาคตที่ทุกคนมีส่วนร่วมร่วมกัน
การเฉลิมฉลองของงานดังกล่าวถูกลดทอนลงจากการขู่ขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เมื่อต้นเดือนเมษายน ที่สร้างความตึงเครียดและทำให้เกิดความสั่นคลอนไปทั่วโลก ขณะที่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามในยูเครนก็ยังคงดำเนินต่อไป
อิชิบะอ้างถึง “Grand Ring” ไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของงานเอ็กซ์โป ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีที่ถูกวางล้อมรอบสถานที่จัดงานว่า “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโลกจะกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ และนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกวงแหวนแห่งนี้”
งานเอ็กซ์โปที่โอซาก้าในครั้งนี้ ถือเป็นงานแสดงระดับโลกครั้งที่ 2 หลังจากงานในปี 1970 ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและสามารถดึงดูดผู้เข้าชมได้มากถึง 64 ล้านคน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดก่อนงานเอ็กซ์โปที่เซี่ยงไฮ้ในปี 2010
กระนั้นก็ดี ดูเหมือนว่ายอดขายตั๋วจะไม่เป็นไปตามความคาดหมาย โดยจนถึงขณะนี้มียอดขายตั๋วล่วงหน้าอยู่ที่ 9 ล้านใบ ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายของผู้จัดงานที่ตั้งไว้ที่ 14 ล้านใบ แต่ผู้จัดงานคาดหวังว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 28 ล้านคน ในงานที่จัดขึ้นเป็นเวลา 6 เดือน จนถึงวันที่ 13 ตุลาคมนี้
การในครั้งนี้ ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับความสนใจและการสนับสนุนจากสาธารณชนที่ลดน้อยลง ทั้งยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนการก่อสร้างที่พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากเงินเยนอ่อนค่า ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากประมาณการเบื้องต้นเป็น 235,000 ล้านเยน หรือมากกว่า 5.49 หมื่นล้านบาท โดยราว 14% ของต้นทุนดังกล่าวเป็นค่าเวที ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเกี่ยวกับการใช้เงินภาษีของรัฐบาล ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นยังทำให้การก่อสร้างของบางประเทศล่าช้าอีกด้วย
