หุ้นเอเชียเปิดตลาดปรับขึ้นเล็กน้อย หลังทรัมป์เผย อาจยกเว้นภาษียานยนต์บางส่วน

AP

หุ้นเอเชียเปิดตลาดปรับขึ้นเล็กน้อย หลังทรัมป์เผย อาจยกเว้นภาษียานยนต์บางส่วน

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยหลังเปิดตลาดในวันที่ 15 เมษายน โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ระบุว่า เขาอาจยกเว้นการเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ที่มีอยู่แล้วบางส่วน

ทรัมป์กล่าวเมื่อวันที่ 14 เมษายน ว่าเขากำลังพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์จากต่างประเทศ ที่ปัจจุบันเก็บในอัตรา 25% ซึ่งมีผลกับสินค้าจากเม็กซิโก แคนาดา และประเทศอื่นๆ ซึ่งภาษีเหล่านี้อาจทำให้ราคารถยนต์เพิ่มขึ้นหลายพันดอลลาร์สหรัฐ

“ผมกำลังมองหาบางสิ่งที่จะช่วยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ พวกเขาต้องการเวลาสักหน่อย เพราะพวกเขากำลังจะมาผลิตรถยนต์ที่นี่” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว พร้อมบอกด้วยว่า “ผมไม่เปลี่ยนใจ แต่ผมยืดหยุ่นได้”

ADVERTISMENT

แถลงการณ์ของทรัมป์แสดงให้เห็นถึงการกลับลำเกี่ยวกับภาษีศุลกากรอีกครั้ง หลังจากที่มาตรการภาษีของทรัมป์ทำให้ตลาดการเงินเกิดความตื่นตระหนกไปทั่วโลก และทำให้เกิดความวิตกกังวลอย่างมากในหมู่นักเศรษฐศาสตร์และวอลล์สตรีทเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย

การแสดงท่าทีผ่อนปรนต่อการเก็บภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ดังกล่าวยังมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐเพิ่งประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า จะยกเว้นการเก็บภาษีต่างตอบแทนต่อสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางรายการ แต่ก็มีการะบุในภายหลังว่ากำลังจะมีการจัดเก็บภาษีชนิดใหม่ต่อสินค้าเหล่านี้ และสหรัฐยังจะเพิ่มการตรวจสอบการนำเข้าชิปเซมิคอนดักเตอร์ โดยทรัมป์กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาจะประกาศอัตราภาษีใหม่กับสินค้ากลุ่มนี้ในสัปดาห์หน้า

ADVERTISMENT

สำหรับตลาดหุ้นเอเชีย นักลงทุนพร้อมที่จะเปิดรับข่าวดีใดๆ ก็ตาม หลังจากการเทขายอย่างหนักในตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้การเปิดตลาดในช่วงเช้าวันที่ 15 เมษายนนี้ หุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยโดยดัชนี MSCI ที่ครอบคลุมหุ้นเอเชียแปซิฟิกนอกญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.3%

ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% โดยหุ้นของบริษัทผลิตรถยนต์ เช่น Toyota และ Denso ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ รั้งตำแหน่งหุ้นที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงเช้าวันนี้

อย่างไรก็ดี ดูเหมือนการปรับตัวเพิ่มขึ้นจะยังอยู่ในวงจำกัด เพราะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของทรัมป์ และการตอบโต้กันอย่างต่อเนื่องในเรื่องภาษีศุลกากร ที่ยังคงสร้างความกังวลต่อตลาดและต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

ความยืดหยุ่นของทรัมป์ยังทำให้เกิดความรู้สึกไม่แน่นอนและสับสนเกี่ยวกับเจตนาและเป้าหมายสุดท้ายของเขา ส่งผลให้ดัชนีหุ้น S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อวันจันทร์ แต่ในภาพรวมยังคงลดลงเกือบ 8% ในปีนี้ อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งสูงขึ้นเป็นประมาณ 4.4%

ขณะที่ดัชนีซื้อขายล่วงหน้าของหุ้นสหรัฐยังคงแกว่งตัวทั้งในแนวบวกและแนวลบ โดยดัชนีซื้อขายล่วงหน้าของ Nasdaq และ S&P 500 ต่างก็ปรับตัวลดลงเกือบ 0.2% ขณะที่ในยุโรป ดัชนีซื้อขายล่วงหน้า EUROSTOXX 50 ปรับตัวลดลง 0.14% ด้านดัชนี FTSE FFIc1 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.25%

พันธบัตรสหรัฐกลับมาทรงตัวหลังมีการเทขายอย่างแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐก็อ่อนค่าลงต่อเนื่องใกล้แตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี เมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ 1.13245 ดอลลาร์สหรัฐ และเกือบจะแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากการยกเว้นภาษีศุลกากรล่าสุดของสหรัฐ โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ 65.01 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันดิบสหรัฐเวสต์เท็กซัสเพิ่มขึ้น 0.24% มาอยู่ที่ 61.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ส่วนราคาทองคำในตลาดอยู่ที่ระดับเกือบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,221.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image