จีนจับมือเวียดนามหนุนค้าเสรี WTO ชี้การค้า2ชาติเสี่ยงลด 80% รมว.คลังมะกันย้ำ ภาษีทรัมป์ไม่ใช่เรื่องตลก
ท่ามกลางสงครามการค้าที่ยังคุกรุ่นระหว่างจีนกับสหรัฐที่สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก นายหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างแถลงข่าวในวันที่ 15 เมษายน ว่า เมื่อเผชิญกับความไม่แน่นอนภายนอก จีนจะยืนกรานที่จะจับมือกันมากกว่าจะชกต่อย ทำลายกำแพงแทนที่จะสร้างสิ่งกีดขวาง เชื่อมต่อแทนที่จะแยกออกจากกัน
ขณะเดียวกัน บทวิจารณ์ใน People’s Daily หนังสือพิมพ์ของรัฐบาลจีนที่เผยแพร่ในวันเดียวกัน ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นของความสามัคคีท่ามกลางความปั่นป่วนทางการค้า
บทความดังกล่าวอ้างถึงการผจญภัยของโดโรธีในนิทานเด็กอเมริกันเรื่อง The Wizard of Oz ว่า “เมื่อเผชิญกับวิกฤต ไม่มีใครสามารถเก็บตัวอยู่คนเดียวได้ มีเพียงความสามัคคีและความร่วมมือเท่านั้นที่จะรับมือกับความท้าทายนี้ได้”
ทั้งยังนำเสนอประเทศจีนในฐานะประเทศที่มีเจตนาดีและสนับสนุนการค้าเสรี โดยระบุถึงการตัดสินใจของจีนในการยกเว้นภาษีนำเข้าเป็นศูนย์ให้กับประเทศคู่ค้าบางประเทศที่อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาน้อยที่สุด
การประกาศตนในฐานะประเทศที่เห็นความสำคัญของความร่วมมือท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นภายนอกดังกล่าว มีขึ้นในขณะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กำลังเดินทางเยือนประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 3 ประเทศ เริ่มจากประเทศเวียดนาม ซึ่งทั้งสองชาติได้แสดงจุดยืนสนับสนุนการธำรงไว้ซึ่งการรักษาระบบการค้าพหุภาคีที่มีองค์การการค้าโลกเป็นศูนย์กลาง
ในแถลงการณ์ร่วมที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 เมษายน จีนและเวียดนามร่วมกันแสดงจุดยืนต่อต้านการครอบงำ การเมืองเชิงอำนาจ และการดำเนินการฝ่ายเดียว
“เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความไม่มั่นคง และคาดเดาไม่ได้ เราทั้งสองฝ่ายจะยึดมั่นในการส่งเสริมกรอบพหุภาคีอย่างมั่นคง” แถลงการณ์ร่วมระบุ ขณะที่เวียดนามยังระบุด้วยว่า พร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ที่มีบราซิล อินเดีย รัสเซีย แอฟริกาใต้ และจีน เป็นสมาชิก
องค์การการค้าโลกเตือนว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐซึ่งมีเดิมพันสูง อาจทำให้ปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างสองประเทศลดลงมากถึง 80% และส่งผลกระทบต่อการเติบโตของโลกอย่างรุนแรง
ด้านจีนกล่าวว่า กลยุทธ์การขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ เป็น “เรื่องตลก” ซึ่งทำให้สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐไม่พอใจ และให้สัมภาษณ์ตอบโต้ว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น มันเป็นตัวเลขที่ใหญ่มาก แน่นอนว่าผมคิดว่าไม่มีใครคิดว่ามันจะยั่งยืน หรือต้องการให้มันอยู่แบบนี้ต่อไป แต่มันห่างไกลจากคำว่าเรื่องตลกมาก” พร้อมย้ำว่า การเจรจาใดๆ ระหว่างสหรัฐกับจีนจะต้องมาจากระดับสูงสุด ซึ่งมีประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสีเข้าร่วม
