เปิด ‘ปฏิบัติการอัสซาด’ อดีตผู้นำเผด็จการซีเรีย ลอบขนสมบัติ ก่อนลี้ภัยรัสเซีย
อัสซาด – รายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่อ้างว่ารวบรวมข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข่าววงในหลายสิบแหล่งที่ล่วงรู้เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำเผด็จการที่ปกครองประเทศซีเรียมานานยาวนานถึง 24 ปี ก่อนถูกกลุ่มกบฎในซีเรียโค่นล้มลงจากอำนาจไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาจนต้องลี้ภัยหนีไปรัสเซียนั้น เผยให้เห็นว่าอัสซาดได้ใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำในการลอบขนทรัพย์สมบัติทั้งที่เป็นเงินสด ทรัพย์สินมีค่าต่างๆ รวมถึงเอกสารลับสำคัญที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายองค์กรที่อยู่เบื้องหลังความมั่งคั่งของเขา ออกนอกประเทศไป เพียงไม่นานก่อนที่กลุ่มกบฎซีเรียนำโดยนายอาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โกลานี อดีตผู้นำกลุ่มอัลเคด้า จะบุกยึดกรุงดามัสกัส เมืองหลวงซีเรียได้สำเร็จ
แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า ยาซาร์ อิบราฮิม ที่ปรึกษาสูงสุดด้านเศรษฐกิจของอัสซาดในขณะนั้นเป็นผู้ที่จัดการเช่าเครื่องบินในการขนทรัพย์สมบัติ ครอบครัวญาติพี่น้อง ผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่วงในใกล้ชิดของอัสซาดออกจากประเทศซีเรียไปยังสนามบินอัลบาทีน เอ็กซ์คิวทีฟ ในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวม 4 เที่ยว โดยอับราฮิม ถือเป็นมือทำงานที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเครือข่ายองค์กรที่อัสซาดใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมเศรษฐกิจของประเทศและมักทำหน้าที่เป็นแนวหน้าของอัสซาด

จากการตรวจสอบบันทึกการติดตามเที่ยวบิน ภาพถ่ายดาวเทียมและแหล่งข่าวที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของกองทัพซีเรียที่รับรู้ข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับปฏิบัติการดังกล่าวพบว่า เครื่องบินเช่าลำดังกล่าวที่อัสซาดใช้เป็นเครื่องบิน Embraer Legacy 600 มีหมายเลข C5-SKY บนหางเครื่องและจดทะเบียนในประเทศแกมเบีย ถูกใช้ขนทรัพย์สมบัติและคนของอัสซาดไปกลับซีเรีย 4 รอบภายในเวลา 48 ชั่วโมง ก่อนที่ระบอบปกครองอัสซาดจะล่มสลาย
ในจำนวนทรัพย์สินที่มีการลอบขนออกไปนั้นมีถุงดำขนาดใหญ่หลายถุงภายในบรรจุเงินสดมูลค่าอย่างน้อย 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตลอดจนเอกสาร แล็ปท็อปและฮาร์ดไดรฟ์ที่มีข้อมูลข่าวกรองสำคัญเกี่ยวกับ “The Group” ซึ่งเป็นชื่อรหัสที่อัสซาดและคนของอิบราฮิมใช้ในการคุมเครือข่ายต่างๆ ตั้งแต่ด้านโทรคมนาคม ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ พลังงานและอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีภาพวาดและรูปปั้นจำนวนหนึ่งรวมอยู่ด้วย
แหล่งข่าวรายหนึ่งเผยว่าในแต่ละครั้งที่เครื่องบินลำดังกล่าวลงจอดที่สนามบินอัลบาทีนในดูไบจะมีรถหลายคันวิ่งตรงมายังเครื่องบินลำนั้นและจอดสักพักหนึ่งก่อนจะพากันขับออกไป ไม่นานก่อนที่เครื่องบินลำดังกล่าวจะบินกลับไปซีเรียอีกครั้ง
เที่ยวบินสุดท้ายนั้นได้ทะยานออกจากฐานทัพอากาศ Hmeimim ที่ดำเนินงานโดยรัสเซีย ตั้งอยู่ใกล้เมืองลาตาเกีย ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของประเทศซีเรียในวันที่ 8 ธันวาคม ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันและวันเดียวกันกับที่อัสซาดพร้อมภรรยาได้หลบหนีออกนอกประเทศไปยังรัสเซีย
จนถึงขณะนี้อัสซาดพำนักอยู่ที่ใดหลังจากได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยในประเทศรัสเซียยังไม่มีใครรู้ซึ่งรอยเตอร์บอกว่ายังไม่สามารถติดต่อนายอัสซาดหรือนายอิบราฮิมเพื่อขอความเห็นในเรื่องนี้ได้ โดยที่กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน