ทรัมป์เล็งปิดสถานทูต-กงสุลสหรัฐหลายแห่งทั่วโลก พร้อมปฏิรูปการทูตมะกัน
เดอะนิวยอร์กไทม์รายงานโดยอ้างบันทึกภายในของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาแผนการปิดสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลสหรัฐหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงการลดจำนวนและรวมสถานกงสุลเข้าด้วยกันเป็นแห่งเดียว โดยการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อลดการใช้งบประมาณ ทั้งยังเป็นไปตามข้อเสนอของผู้บริหารกระทรวงต่างประเทศในการลดการใช้งบประมาณลง 50%
รายชื่อสถานเอกอัครราชทูตที่ได้รับเสนอชื่อให้ปิดตัวลงมีจำนวน 10 แห่ง ประกอบไปด้วย สถานทูตในประเทศแอฟริกากลาง เอริเทรีย แกมเบีย เลโซโท รัฐคองโก ซูดานใต้ ลักเซมเบิร์ก และมอลตา นอกจากนั้น ยังมีการเสนอให้ยกเลิกภารกิจของคณะผู้แทนถาวรสหรัฐที่กรีเนดาและมัลดีฟส์ด้วย
ในส่วนของสถานกงสุลอีก 17 แห่งที่กำลังถูกพิจารณาให้ปิดตัวลง ได้แก่ สถานกงสุลในฝรั่งเศล 5 แห่ง ประกอบไปด้วย บอร์กโดซ์, ลียง, มาร์แซย์, แรนส์, และสทราซ์บูร์ สถานกุงสุลในเยอรมนี 2 แห่งที่อยู่ในดึสเซลดอร์ฟ และไลพ์ซิก รวมถึงสถานกงสุล 2 แห่งในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ที่ตั้งอยู่ที่โมสตาร์และบันยา ลูกา
นอกจากนั้น สถานกงสุลในเทสซาโลนีกี กรีซ, ฟลอเรนซ์ อิตาลี, ปงตาแดลกาดา โปรตุเกส, เอดินเบอระ สกอตแลนด์, ดูอาลา แคเมอรูน, เมดัน อินโดนิเซีย, เดอร์บัน แอฟริกาใต้ และปูซาน เกาหลีใต้ ถูกระบุไว้ในบันทึกเช่นกัน
จากข้อความในบันทึกภายในมีข้อเสนออีกว่า ควรมีการลดบทบาทหรือปิดตัวสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในโมกาดิชู โซมาเลีย และปิดตัวศูนย์สนับสนุนทางการทูตแบกแดดในอิรัก ไปพร้อมกับการลดค่าใช้จ่ายทางการทูตที่แบกแดดและเออร์บิลในอิรัก บันทึกระบุด้วยว่า ควรมีการรวมสถานกงสุลอย่างในญี่ปุ่นและแคนาดาเป็นแห่งเดียว
ในการนี้ สถาบันโลวี่ คลังสมองด้านนโยบายต่างประเทศที่ตั้งอยู่ในซิดนีย์ ให้ความเห็นว่า หากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจดำเนินการตามข้อเสนอ บทบาทของสหรัฐในทางการทูตในยุโรป แอฟริกาและเอเชียตะวันออกจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับจีน ซึ่งในปัจจุบันจำนวนคณะทูตของจีนนั้นมากกว่าสหรัฐในแอฟริกาและเอเชียตะวันออกอยู่แล้ว