สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลสกอตแลนด์ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่ออังกฤษขอจัดการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชรอบ 2 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นับเป็นย่างก้าวที่ส่งผลให้วิกฤตเบร็กซิท หรือการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
นางนิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ ส่งจดหมายถึงนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า สกอตแลนด์ไม่ต้องการออกจากระบบตลาดร่วมของยุโรป 2 วันหลังจากที่อังกฤษเริ่มต้นกระบวนการเบร็กซิทอย่างเป็นทางการ
“ประชาชนชาวสกอตแลนด์จะต้องมีสิทธิในการกำหนดอนาคตของเราเอง” จดหมายของนางสเตอร์เจียน หัวหน้าพรรคชาตินิยมสก็อต (เอสเอ็นพี) ระบุ
ทั้งนี้ สกอตแลนด์เลือกอยู่กับอียูในการลงประชามติเมื่อปีที่แล้ว แต่คะแนนรวมของสหราชอาณาจักรทั้งหมดลงมติออกจากอียู
นางสเตอร์เจียนระบุว่า เรื่องดังกล่าวทำให้ถือได้ว่า สถานการณ์แวดล้อมเปลี่ยนไปนับตั้งแต่การลงมติแยกตัวเป็นเอกราชเมื่อปี 2557 ที่ชาวสก็อต 55 เปอร์เซ็นต์ ลงมติที่จะอยู่กับสหราชอาณาจักรต่อไป โดยรัฐสภาสกอตแลนด์ลงมติ 69 ต่อ 59 เสียง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม เพื่อจัดการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชอีกครั้ง แต่จะไม่มีผลผูกมพันทางกฎหมายหากไม่ได้รับการยินยอมจากอังกฤษ
นางสเตอร์เจียนเปิดเผยว่า ต้องการให้มีการลงประชามติในช่วงต้นปี 2561 ก่อนที่อังกฤษจะออกจากอียู
