ทรัมป์เผย เตรียมยกหูคุยปูตินจันทร์นี้ หวังยุติสงครามยูเครน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวว่า เขาจะโทรศัพท์คุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน โดยระบุว่าเป้าหมายของการสนทนาคือการยุติการนองเลือด
ทรัมป์โพสต์บน Truth Social ของเขาว่า การหารือจะมีขึ้นเวลา 10.00 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ และหลังจากนั้นเขาจะโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน รวมถึงผู้นำประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) บางประเทศ
“หวังว่ามันจะเป็นวันที่ทำให้เกิดผลก้าวหน้า เกิดการหยุดยิง และสงครามที่รุนแรงนี้ ซึ่งเป็นสงครามที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย จะยุติลง” ทรัมป์ระบุในโพสต์
คำประกาศของทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่รัสเซียและยูเครนเพิ่งจัดการเจรจาแบบพบหน้ากันครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่นครอิสตันบูลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม แม้จะยังไม่มีข้อตกลงที่เป็นรูปธรรม แต่ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนเชลยศึกระหว่างกัน
ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยกล่าวว่า ความคืบหน้าในการยุติสงครามยูเครนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเขาและปูตินพูดคุยกันเท่านั้น
ด้านนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ยืนยันกับสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียว่า กำลังมีการเตรียมการสำหรับการโทรศัพท์หารือระหว่างปูตินกับทรัมป์ในวันจันทร์
เมื่อวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้โทรศัพท์หารือกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งรัสเซียแสดงท่าทีต้อนรับความพยายามของสหรัฐในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง แม้ว่าการดำเนินการของรัสเซียจะช้ากว่าที่ทรัมป์คาดหวังก็ตาม
หลังการเจรจาที่อิสตันบูล ยูเครนยังคงยืนยันข้อเรียกร้องเดิมคือ การหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนรายหนึ่งเผยว่า รัสเซียได้เสนอข้อเรียกร้องใหม่ที่ไม่สามารถยอมรับได้ ซึ่งรวมถึงการให้ยูเครนถอนทหารออกจากพื้นที่ขนาดใหญ่ในดินแดนของตนเอง เพื่อแลกกับการหยุดยิง
วลาดิเมียร์ เมดินสกี ที่ปรึกษาของปูติน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียพอใจกับผลการเจรจาและพร้อมจะติดต่อกันต่อไป
อย่างไรก็ดี ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น โดรนของรัสเซียได้โจมตีรถโดยสารในแคว้นซูมีของยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ทำให้ประธานาธิบดีเซเลนสกีเรียกร้องให้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียให้เข้มงวดขึ้น เพราะนี่ถือเป็นการสังหารพลเรือนโดยเจตนา
ขณะที่รัสเซียยังไม่ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ แต่สื่อของรัสเซียรายงานว่า มีการโจมตีเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ซูมี