สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การโจมตีที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นการใช้อาวุธเคมีเข้าใส่เมืองเมืองข่านชีคฮูน ในจังหวัดอิดลิบ อันเป็นพื้นที่ครอบครองของฝ่ายกบฏทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียที่คร่าชีวิตพลเรือนไปอย่างน้อย 72 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย ได้รับเสียงประณามอย่างรุนแรงจากประชาคมนานาชาติ เมื่อวันที่ 5 เมษายน
องค์กรสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียเปิดเผยว่า การโจมตีดังกล่าวยังส่งผลให้ผู้คนอีกหลายสิบรายป่วย และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งหมดสติ อาเจียน น้ำลายฟูมปาก หายใจกระหืดกระหอบ มีเด็กอย่างน้อย 19 ราย และผู้หญิง อีก 17 รายที่เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้
ฝ่ายค้านของซีเรียระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นฝีมือของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ขณะที่ทางการอังกฤษระบุว่าหลักฐานทุกอย่างบ่งชี้ว่ารัฐบาลซีเรียเป็นผู้ลงมือ โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เรียกประชุมวันเดียวกันนี้ตามเวลาท้องถิ่นในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา หลังจากที่สหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส ร่างข้อมติประณามการกระทำครั้งนี้ไว้แล้ว และเรียกร้องให้มีการสอบสวน
อย่างไรก็ตาม คาดว่ารัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาลซีเรีย จะใช้สิทธิวีโต้คัดค้านข้อมติ โดยระบุว่า แม้เครื่องบินของกองทัพซีเรียจะเป็นผู้เปิดฉากจู่โจมจริง แต่สารเคมีดังกล่าวมาจากคลังเก็บอาวุธของฝ่ายกบฏในพื้นที่ซึ่งถูกยิงเสียหายทำให้สารเคมีรั่วไหลออกมา ขณะที่กองทัพซีเรียออกแถลงการณ์ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายที่ใช้อาวุธเคมี