‘ทรัมป์’เผยติดตลก หารือผู้นำจีนยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เล็งถกเรื่องนุกโสมแดง

AFP PHOTO / JIM WATSON

สำรักข่าวรอยเตอร์ เอเอฟพี และซีเอ็นเอ็น เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 เมษายน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน รับประทานอาหารร่วมกัน และใช้เวลาพูดคุยสังสรรค์อย่างเป็นกันเองก่อนที่จะเริ่มต้นเจรจาหารือทวิภาคีในเรื่องที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งอันสลับซับซ้อน ทั้งประเด็นด้านความมั่นคงและการค้า

นายทรัมป์เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ต้องการที่จะยกประเด็นเรื่องความกังวลที่มีต่อวิธีปฏิบัติทางการค้าของจีนขึ้นมาหารือ และเรียกร้องให้นายสีทำอะไรมากกว่านี้ในการควบคุมความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ในการพบปะหารือกับผู้นำจีนเป็นครั้งแรก แม้คาดว่าจะไม่มีการบรรลุข้อตกลงสำคัญในทั้ง 2 เรื่องก็ตาม

AFP PHOTO / JIM WATSON

การหารือของผู้นำทั้ง 2 ซึ่งจัดขึ้นที่มาร์-อา-ลาโก รีสอร์ทสไตล์สเปนของนายทรัมป์ ที่เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา สหรัฐ เริ่มต้นด้วยความอบอุ่นและเป็นมิตร โดยนายสีและนางเผิง ลี่หยวน ภรรยา นั่งรับประทานอาหารร่วมกับนายทรัมป์และนางเมลาเนีย สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐใต้แสงเทียนบนโต๊ะยาวที่หรูหรา ประดับประดาไปด้วยดอกไม่สีแดงและเหลืองที่วางอยู่ตรงกลาง พร้อมอาหารจานเด็ดคือปลาโซลทอดและสเต๊กเนื้อแบบนิวยอร์ก

นายทรัมป์กล่าวติดตลกก่อนหน้าการร่วมรับประทานอาหารเย็นกับผู้นำจีนว่า “เราหารือกันโดยใช้เวลามากพอสมควรแล้ว และจนถึงตอนนี้ผมยังไม่ได้อะไรเลย ไม่ได้อะไรเลยจริงๆ แต่เราได้พัฒนาความสัมพันธ์ฉันเพื่อน และผมคิดว่า ในระยะยาว เราจะมีความสัมพันธ์ต่อกันที่ยอดเยี่ยมมากๆ และผมรอที่จะให้ถึงวันนั้น”

Advertisement
AFP PHOTO / JIM WATSON

อย่างไรก็ตาม ความเอิกเกริกของการหารือในวันดังกล่าวนี้ถูกบดบังด้วยประเด็นด้านนโยบายต่างประเทศที่ตึงเครียดอีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือ การโจมตีของสหรัฐใส่ฐานทัพอากาศของซีเรียเพื่อเป็นการตอบโต้ที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีเข้าใส่พื้นที่ครอบครองของฝ่ายต่อต้าน

ทั้งนี้ คาดว่าประธานาธิบดีทรัมป์และนายสี จะหารือกันโดยลงลึกในรายละเอียดมากกว่านี้ในวันที่ 7 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่จะสรุปผลการประชุมด้วยการรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน

AFP PHOTO / JIM WATSON

ฝ่ายของนายทรัมป์นั้นคาดว่า ประเด็นเรื่องพฤติกรรมระรานและความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญด้านขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า ช่วงเวลาแห่งความอดทนทางยุทธศาสตร์จบสิ้นลงแล้ว

Advertisement

ขณะที่ฝ่ายผู้นำจีนนั้น วาระสำคัญที่สุดในการประชุมหารือครั้งนี้ อ้างอิงจากคำบอกเล่าของแหล่งข่าวใกล้ชิด ระบุว่า คือแผนการลงทุนที่จะสร้างงานกว่า 700,000 ตำแหน่งในสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับที่คู่แข่งของจีนในภูมิภาคเอเชียอย่างญี่ปุ่น ให้สัญญาไว้ในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่นเดินทางเยือนสหรัฐเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image