กต. เตรียมแผนช่วยคนไทยในอิสราเอล-อิหร่านแล้ว ทั้งหมดยังปลอดภัย ยังไม่สั่งอพยพ
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมและการให้ความช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง หลังจากที่อิสราเอลและอิหร่านได้มีการโจมตีกันเข้าสู่วันที่ 6 และมีโอกาสที่สถานการณ์จะรุนแรงขึ้น
นายนิกรเดชกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และได้เปิดศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (RRC) เพื่อร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กองทัพอากาศ กระทรวงแรงงาน และสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อติดตามสถานการณ์และเตรียมการช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ ขอเรียนว่าทุกหน่วยงานได้เตรียมแผนช่วยเหลือทุกด้านไว้พร้อมแล้วในกรณีที่มีความจำเป็น แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในอิสราเอลและอิหร่าน
ขณะนี้มีคนไทยอาศัยอยู่ในประเทศอิหร่านจำนวน 350 คน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้ร่วมกับประธานชุมชนไทยได้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวที่เมือง Amol ทางตะวันออกเฉียงเหนือจากกรุงเตหะรานไปประมาณ 200 กิโลเมตร รองรับคนไทยได้ประมาณ 200 คน และตอนนี้มีคนไทยไปพำนักที่ศูนย์ดังกล่าวแล้ว 35 คน ทางสถานทูตได้ออกประกาศขอให้คนไทยในกรุงเตหะรานเดินทางออกพื้นที่ในโอกาสแรกไปที่ศูนย์พักพิงดังกล่าวหรือไปพักกับญาตินอกกรุงเตหะรานเพื่อความปลอดภัย ส่วนตอนนี้มีนักศึกษาไทยประมาณ 100 คนอยู่ในเมืองกุม ทางตอนใต้ของกรุงเตหะราน ซึ่งทั้งหมดยังปลอดภัยดี
เนื่องจากสถานการณ์ในกรุงเตหะรานมีความเสี่ยงสูง ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะรานจึงย้ายที่ทำการชั่วคราวไปยังเมือง Kordan ทางตอนเหนือของกรุงเตหะรานประมาณ 60 กิโลเมตร ขณะนี้มีคนไทยแจ้งความประสงค์ที่จะเดินทางกลับไทยแล้ว 5 ราย แต่คนไทยส่วนใหญ่ในอิหร่านยังเลือกที่จะอยู่ในอิหร่านต่อไป ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะรานได้เตรียมแผนการเดินทางทางบกไปยังประเทศใกล้เคียงไว้พร้อมแล้ว
ส่วนอิสราเอล ขณะนี้มีคนไทยอาศัยอยู่ในอิสราเอล 4 หมื่นคน และมีคนไทยแสดงความประสงค์ที่จะเดินทางกลับไทย 3 ราย โดยทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟได้เตรียมแผนการเดินทางทางบกไปยังประเทศใกล้เคียงแล้วเช่นกัน นอกจากนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังเตรียมบุคลากรจากส่วนกลางไปสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือคนไทยในอิหร่านและอิสราเอล เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างประสิทธิภาพ
นายนิกรเดชกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศจะมีการประชุมร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตที่เกี่ยวข้องทุกวันเพื่อตามสถานการณ์ รวมถึงการเตรียมความพร้อมช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ในมิติต่างๆ ตามสถานการณ์ จึงขอย้ำว่าขอให้ชาวไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวหากไม่มีความจำเป็น และหากมีเที่ยวบินให้บริการหรือคนไทยสามารถเดินทางออกได้ด้วยตนเองโดยสะดวกและปลอดภัย ขอให้คนไทยพิจารณาเดินทางออกจากพื้นที่ทันที ขอเรียนว่าสถานเอกอัครราชทูตขอให้คนไทยย้ายออกเป็นกรณีชั่วคราวไปยังพื้นที่ปลอดภัย ไม่ใช่การอพยพคนไทยออกจากอิหร่านและอิสราเอล
เมื่อถามว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางมีความรุนแรงถึงขั้นต้องอพยพคนไทยออกมาจากอิสราเอลและอิหร่านในเร็วๆ นี้หรือไม่นั้น นายนิกรเดชกล่าวว่า ในชั้นนี้ สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีความผันผวนสูง ขอเรียนอัปเดตสถานการณ์เป็นรายวัน ตอนนี้ยังไม่มีแผนที่จะอพยพคนไทยออกจากทั้ง 2 ประเทศ หากมีการอพยพเมื่อใดจะแจ้งให้ทราบทันที ตอนนี้น่านฟ้าของอิสราเอลและอิหร่านยังปิดอยู่ การเข้าไปอพยพคงเป็นเรื่องยาก และต้องดูความประสงค์ของคนไทยที่อยู่ในทั้ง 2 ประเทศเป็นปัจจัยสำคัญ
ส่วนกรณีคลิปเสียงระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรของไทยและสมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชานั้น นายนิกรเดชขอไม่ให้ความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นและคิดว่าเป็นเรื่องทางการเมือง