
ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชน |
---|---|
ผู้เขียน | มนต์ทิพย์ ธานะสุข |
เผยแพร่ |
คอลัมน์ไฮไลต์โลก: เจาะโครงข่ายนิวเคลียร์อิหร่าน ภัยคุกคามหรือข้ออ้างอิสราเอลขยี้ศัตรู
เช้าตรู่วันที่ 13 มิถุนายน เสียงระเบิดที่ไม่มีใครคาดฝันได้สั่นสะเทือนเหนือท้องฟ้าอิหร่าน เมื่ออิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหารหลายแห่งในอิหร่าน จุดชนวนความตึงเครียดระหว่างสองชาติปฏิปักษ์ให้ลุกโชนหนักขึ้นสู่ระดับใหม่
อิสราเอลอ้างว่าการโจมตีนี้เป็น “การป้องกันล่วงหน้า” เพื่อตอบโต้สิ่งที่เชื่อว่าเป็นความพยายามเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อิหร่าน แม้อีกฝ่ายจะยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีขึ้นเพื่อเป้าหมายในทางสันติ
หนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ที่ตกเป็นเป้าหมายหลักในการเปิดฉากโจมตีอิหร่านของอิสราเอลภายใต้ปฏิบัติ “สิงโตผงาด” คือ โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเมืองนาทานซ์ (Natanz) ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 220 กม. ที่นี่เป็นศูนย์หลักในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่าน ส่วนหนึ่งของโรงงานถูกสร้างขึ้นใต้ดินเพื่อป้องกันการโจมตีทางอากาศ ภายในดำเนินการด้วยระบบเครื่องหมุนเหวี่ยงหลายชุดที่ทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้เร็วขึ้น
โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมฟอร์โด(Fordo) อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 100 กม. มีเครื่องหมุนเหวี่ยงเช่นเดียวกันแต่ขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่เท่าที่นาทานซ์ โรงงานนิวเคลียร์แห่งนี้ตั้งอยู่ใต้ภูเขา เริ่มก่อสร้างขึ้นอย่างลับๆ ในราวปี 2007 ก่อนอิหร่านจะยอมเปิดเผยกับ ทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ(ไอเออีเอ) ในอีก 2 ปีต่อมาว่ามีโรงงานนิวเคลียร์แห่งนี้อยู่ ซึ่งยังถูกปกป้องด้วยระบบป้องกันภัยอันแข็งแกร่ง สามารถต้านทานการโจมตีทางอากาศได้
ในโครงข่ายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านยังมี โรงไฟฟ้านิวเคลียร์บูเชห์ ตั้งอยู่ริมอ่าวเปอร์เซีย ทางตอนใต้ของเตหะราน เป็นโรงไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เพียงแห่งเดียวของอิหร่านที่เริ่มก่อสร้างในยุคของชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ช่วงกลางทศวรรษ 1970 แต่ล่าช้าเพราะเกิดการปฏิวัติอิสลามขึ้นในปี 1979 และสงครามอิหร่าน-อิรัก ก่อนที่รัสเซียจะยื่นมือเข้ามาช่วยสร้างจนแล้วเสร็จ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ใช้เชื้อเพลิงยูเรเนียมที่ผลิตจากรัสเซียและอยู่ภายใต้การตรวจสอบของไอเออีเอ
เตาปฏิกรณ์แบบใช้น้ำมวลหนักเมืองอารัก (Arak) อยู่ห่างจากเตหะรานไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 250 กม. เป็นเตาปฏิกรณ์ที่สามารถผลิตพลูโตเนียมได้ แม้จะยังไม่ถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาอาวุธ แต่ก็เป็นทางสำรองในการจะผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ อย่างไรก็ดี อิหร่านได้ทำความตกลงที่จะปรับโครงสร้างของเตาปฏิกรณ์นี้ภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 เพื่อลดความเสี่ยงด้านการแพร่กระจายนิวเคลียร์
ศูนย์เทคโนโลยีนิวเคลียร์อิสฟาฮาน อยู่ห่างจากเตหะรานไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 350 กม. ที่นี่เป็นศูนย์รวมของนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์หลายพันคน มีเตาปฏิกรณ์เพื่อการวิจัยที่จีนสร้างให้ 3 เตาและมีห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
เตาปฏิกรณ์วิจัยเตหะราน ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ขององค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน ซึ่งเป็นหน่วยงานพลเรือนที่ดูแลโครงการนิวเคลียร์ เตาปฏิกรณ์แห่งนี้ได้รับมอบจากสหรัฐในปี 1967 ภายใต้โครงการปรมาณูเพื่อสันติภาพ เดิมใช้ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูง แต่ภายหลังถูกปรับให้ใช้ยูเรเนียมสมรรถนะต่ำเพื่อลดความเสี่ยงของการนำไปใช้ในทางทหาร
เหล่านี้เป็นเขี้ยวเล็บในโครงการนิวเคลียร์อิหร่านที่อิสราเอลอ้างว่าเป็นภัยคุกคามต้องขจัดทำลายให้สิ้น แต่ก็มีคนตั้งคำถามว่าหรือนี่อาจเป็นเพียงข้ออ้างของอิสราเอลในการมุ่งไปสู่เป้าหมายที่แท้จริงนั่นคือโค่นระบอบปกครองอิหร่าน!