คอลัมน์ไฮไลต์โลก: ผวาภัยหมาป่าเดียวดาย

ภาพเอเอฟพี

เหตุการณ์คนร้ายขับรถบรรทุกพุ่งใส่ฝูงชนกลางกรุงสตอกโฮล์ม เมืองหลวงของสวีเดน คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไป 4 ราย และทำให้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคนเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน เป็นเหตุการณ์โจมตีครั้งล่าสุดของผู้ก่อการร้ายที่เป็นพวก “หมาป่าเดียวดาย” (Lone wolf) หรือพวกที่ก่อเหตุโจมตีเพียงลำพัง ที่มุ่งหมายผลสัมฤทธิ์ให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ซึ่งโลกเราได้เผชิญเหตุโจมตีเลวร้ายทำนองนี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในชาติยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยมีกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส) กลุ่มติดอาวุธมุสลิมหัวรุนแรงที่เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศซีเรียและอิรัก ออกมากล่าวอ้างว่าเป็นฝีมือของกลุ่มตนแทบจะทุกครั้งไป

ตอนนี้มีเสียงร้องเตือนจากผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงในแถบใกล้บ้านเราว่า การโจมตีของพวกหมาป่าเดียวดายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น จากการที่สาวกของกลุ่มไอเอสที่เป็นคนในภูมิภาคนี้ ซึ่งเดินทางไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก ถูกกระตุ้นให้กลับมาเคลื่อนไหวก่อความรุนแรงในประเทศของตนเองมากขึ้นแทน หลังจากกลุ่มไอเอสถูกชาติตะวันตกกวาดล้างอย่างหนักจนเสียสูญและสูญเสียพื้นที่ยึดครองในซีเรียและอิรักไปมาก กอปรกับสาวกไอเอสเหล่านี้เริ่มเห็นว่าการเดินทางไปตะวันออกกลางเพื่อร่วมกับกลุ่มไอเอสในการต่อสู้กับชาติตะวันตกในขณะนี้ยังทำได้ยากมากขึ้น การสนับสนุนด้วยการเคลื่อนไหวอยู่ในภูมิภาคของตนเองน่าจะทำได้ง่ายกว่า

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าในขณะที่เหตุโจมตีจากฝีมือหมาป่าเดียวดายหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุโรปและสหรัฐ ถูกตีเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลก แต่ขณะเดียวกันก็มีเหตุโจมตีจากฝีมือของหมาป่าเดียวดายเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน อย่างในอินโดนีเซีย ทั้งเหตุหนุ่มฉกรรจ์ วัย 21 ปี ใช้อาวุธมีดและไปป์บอมบ์โจมตีด่านตำรวจในเมืองตังเกรัง เหตุการณ์คนร้ายใช้มีดแทงบาทหลวงในโบสถ์เมืองเมดานขณะที่มีการทำพิธีมิสซา และเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตายจุดระเบิดโจมตีด่านตำรวจในจังหวัดโซโล ทั้งหมดถูกทางการอินโดนีเซียจำแนกว่าเป็นฝีมือของหมาป่าเดียวดาย ขณะที่ในมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าสามารถสกัดการโจมตีของพวกหมาป่าเดียวดายได้ 3 ครั้งนับจากปี 2556 โดย มีด ถูกใช้เป็นอาวุธสำคัญในการก่อเหตุของหมาป่าเดียวดาย

มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาวุธที่พวกหมาป่าเดียวดายใช้ มักเป็นมีด และ รถ ที่มีขึ้นหลังจาก อาบู โมฮัมหมัด อัล-อัดนานี โฆษกของกลุ่มไอเอส ประกาศเรียกร้องให้สาวกไอเอสใช้อาวุธที่หาได้ง่าย อย่างมีด รถ หรือ ยาพิษ ในการก่อเหตุโจมตี

Advertisement

กุมาร รามากฤษณะ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายศึกษาในประเทศสิงคโปร์ ชี้ว่าปัญหาท้าทายจากพวกหมาป่าเดียวดายคือ การป้องกันการโจมตี ที่ทำได้ยาก เพราะผู้ก่อการเหล่านี้วางแผนเอง ลงมือโจมตีเอง ซึ่งยากต่อการสอดส่อง ติดตามรอยและหาทางสกัดป้องกันได้

ส่วนการเกณฑ์สาวกของไอเอสยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มวัยรุ่น อายุประมาณ 18-25 ปี เนื่องจากมีความห้าวหาญ อุดมการณ์แรงกล้า และทำตามใบสั่งได้โดยไม่ตั้งคำถามใดๆ

เห็นข้อมูลนี้แล้ว ก็ให้น่าหวั่นใจกับภัยก่อการร้าย ที่นับวันยิ่งเข้าใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกขณะ…

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image