เมื่อวันที่ 28 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เสรีภาพสื่อโลกตกต่ำที่สุดในรอบ 13 ปี โดยถูกคุกคามจากการโจมตีสื่ออย่างรุนแรงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และข้อจำกัดต่างๆ ที่รัฐบาลทั้งที่เป็นประชาธิปไตยและเผด็จการนำมาใช้เพื่อปิดปากสื่อ
ผลสำรวจของฟรีดอมเฮาส์ องค์การสิทธิมนุษยชนที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา เน้นย้ำให้เห็นถึงเรื่องน่ากังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ในความพยายามของรัฐบาลทั่วโลกที่จะปราบปรามสื่อและผู้ที่มีความคิดเห็นต่างไป
เจนนิเฟอร์ ดันแฮม ผู้นำทีมนักวิจัยของฟรีดอมเฮาส์ระบุว่า “ผู้นำทางการเมืองและฝ่ายต่างๆ ในประเทศประชาธิปไตยหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา โปแลนด์ ฟิลิปปินส์และแอฟริกาใต้ ได้โจมตีความน่าเชื่อถือของสื่ออิสระที่ทำข่าวโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และปฏิเสธบทบาทของสื่อในการเป็นผู้ตรวจสอบตามแบบดั้งเดิมในสังคมโลกเสรี”
ในรายงานเสรีภาพสื่อประจำปี 2560 ที่จัดทำโดยสำรวจสถานการณ์ของ 199 ประเทศทั่วโลกในปี 2559 ฟรีดอมเฮาส์ระบุว่า มีประชากรโลกคิดเป็นเพียง 13 เปอร์เซ็นต์ที่อยู่ในประเทศที่ “สื่อมีความเสรี” ซึ่งหมายถึงมีการรายงานข่าวการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ความปลอดภัยของสื่อได้รับการคุ้มครองรับประกัน การเข้าแทรกแซงสื่อของรัฐอยู่ในระดับน้อยมาก และสื่อไม่ได้ตกเป็นเป้าหมายของแรงกดดันทางกฎหมายและเศรษฐกิจมากเกินควร
ขณะที่ ประชากรโลกอีก 42 เปอร์เซ็นต์ มีสื่อที่ “มีเสรีบางส่วน” ส่วนอีก 45 เปอร์เซ็นต์อยู่ในประเทศที่สื่อ “ไม่เสรี” ซึ่งในกลุ่มนี้มีไทยรวมอยู่ด้วย
ไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม “ไม่เสรี” ได้รับคะแนนเท่ากับปีที่แล้วที่ 77 จาก 100 คะแนน โดย 0 คะแนนหมายถึงสื่อมีความเสรีมากที่สุด ขณะที่ 100 หมายถึงไม่เสรี โดยแบ่งเป็น 3 หัวข้อย่อย นั่นคือ สภาพแวดล้อมทางกฎหมายได้ 27 จาก 30 คะแนน สภาพแวดล้อมทางการเมือง ได้ 33 จาก 40 คะแนน และสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจได้ 17 จาก 30 คะแนน
ขณะที่ประเทศที่มีเสรีภาพสื่อแย่ที่สุดในโลกคือ เกาหลีเหนือกับเติร์กเมนิสถานที่ได้ 98 คะแนน และอุซเบกิสถาน ที่ได้ 95 คะแนน ขณะที่ประเทศที่สื่อมีเสรีมากที่สุดคือ นอร์เวย์ ที่ได้ 8 คะแนน ตามมาด้วยเนเธอร์แลนด์และสวีเดนที่ได้ 11 คะแนน ส่วนคะแนนเฉลี่ยโดยรวมทั้งโลกร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 13 ปี
รายงานฉบับนี้ของฟรีดอมเฮาส์ สะท้อนภาพที่คล้ายคลึงกับผลสำรวจก่อนหน้านี้เมื่อต้นสัปดาห์ขององค์การผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (อาร์เอสเอฟ) ที่ระบุว่า เสรีภาพสื่อกำลังเผชิญภัยคุกคามร้ายแรงใน 72 ประเทศทั่วโลก