มะกันอวยอาเซียน ‘พันธมิตรทางยุทธศาสตร์’ ในภูมิภาค กดดันลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตโสมแดง ‘ดอน’ แถลงผลเยือนวันนี้

นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เรียกร้องระหว่างการประชุมสมัยพิเศษร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐ ขอให้ประเทศสมาชิกอาเซียนลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ และช่วยหาทางตัดช่องทางการหาเงินเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออีกด้วย

การพบปะดังกล่าวนับเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับสหรัฐ โดยนายทิลเลอร์สันยังได้ขอให้ประเทศที่อ้างสิทธิในทะเลจีนใต้ยุติการสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ บนเกาะที่ยังมีการอ้างสิทธิทับซ้อนกัน รวมถึงลดการเผชิญหน้าทางทหารขณะที่การหารือเพื่อยกร่างแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้หรือซีโอซียังคงดำเนินอยู่

นายทิลเลอร์สันได้เน้นย้ำถึงพันธกรณีทั้งทางด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจที่สหรัฐมีต่อภูมิภาค แม้จะเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการถอนตัวจากความตกลงตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ของสหรัฐ

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐยังได้เรียกร้องให้ชาติสมาชิกอาเซียนปฏิบัติตามข้อมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อย่างเต็มที่เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวต่อเป้าหมายที่ต้องการให้เกาหลีเหนือยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธ

Advertisement

ชาติสมาชิกอาเซียนทั้งหมดมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีเหนือและมี 5 ชาติที่เปิดสถานทูตในกรุงเปียงยาง อย่างไรก็ดีสหรัฐไม่ได้เรียกร้องให้อาเซียนตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีเหนือ แต่ขอให้พิจารณาการมีอยู่ของชาวเกาหลีเหนือในประเทศซึ่งเกินกว่าความจำเป็นทางการทูต เนื่องจากแรงงานเกาหลีเหนือถือเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้สำคัญสำหรับรัฐบาล

นอกจากนี้สหรัฐยังได้ขอความร่วมมือให้ชาติสมาชิกอาเซียนปราบปรามการฟอกเงินและการลักลอบค้าสิ่งของต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ รวมถึงเพิ่มมาตรการเข้มงวดทางกฎหมายต่อการประกอบธุรกิจ

ขณะที่นายทิลเลอร์สันได้เน้นย้ำกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนว่าอาเซียนยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะพันธมิตรทางยุทธศาสตร์สำหรับสหรัฐ เห็นได้จากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศแล้วว่าจะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดกับผู้นำอาเซียนที่ฟิลิปปินส์ รวมถึงเข้าร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ที่ประเทศเวียดนามในเดือนพฤศจิกายนนี้

รัฐบาลสหรัฐเดินเกมส์รุกทางการทูตอย่างหนักเพื่อพยายามให้บรรลุเป้าหมายในการชักจูงให้เกาหลีเหนือยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธโดยมีการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับจีนซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของเกาหลีเหนือเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือ นอกจากนี้สหรัฐยังได้ขอให้จีนใช้อิทธิพลที่มีเพื่อชักจูงชาติสมาชิกอาเซียนอย่างลาวและกัมพูชาให้ทำเช่นเดียวกัน ความพยายามของสหรัฐยังรวมถึงการที่นายทรัมป์ได้โทรศัพท์หารือกับผู้นำฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดีนักการทูตบางรายระบุว่า การที่สหรัฐเดินเกมส์กดดันอาเซียนอาจสร้างความไม่ชอบใจให้กับชาติสมาชิกอาเซียนซึ่งรวมถึงมาเลเซียที่ยังคงพยายามรักษาความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ แม้จะเกิดปัญหาความตึงเครียดระหว่างกันหลังการลอบสังหารนายคิม จอง นัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือที่สนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ปนะเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้หารือทวิภาคีกับนายทิลเลอร์สัน หลังเสร็จสิ้นการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหรัฐสมัยพิเศษ ซึ่งนับเป็นการพบปะหารือทวิภาคีอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกับสหรัฐ ในขณะที่รัฐบาลไทยอยู่ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยนายดอนจะโฟนอินมายังกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์ภาพรวมของการเดินทางเยือนสหรัฐครั้งนี้ในเวลา 09.00 น. วันนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image