สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เกาหลีเหนือกล่าวหาสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) ว่ารวมหัวกับเกาหลีใต้วางแผนลอบสังหารนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือด้วยการใช้อาวุธชีวภาพ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี
แถลงการณ์ของกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของเกาหลีเหนือที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมระบุว่า ทางกระทรวงสามารถสกัดกั้น “แผนชั่วร้าย” ของ “กลุ่มก่อการร้ายที่น่ารังเกียจ” ที่จะโจมตีผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้สำเร็จ
แถลงการณ์ดังกล่าวที่ได้รับการเผยแพร่ผ่านสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) ของทางการเกาหลีเหนือ ระบุด้วยว่าซีไอเอและหน่วยงานข่าวกรองเกาหลีใต้ได้ติดสินบน จ้างวาน รวมถึงข่มขู่แบล็กเมล์พลเมืองเกาหลีเหนือรายหนึ่งที่ระบุเพียงว่านามสุกลคิม ให้เป็นผู้ลงมือปฏิบัติการในแผนลอบสังหารนี้ โดยสถานที่ที่เป็นไปได้ว่าจะลงมือลอบสังหารผู้นำเกาหลีเหนือมีทั้ง สุสานซึ่งเป็นที่ฝังศพของนายคิม อิล ซุง และนายคิม จอง อิล สองอดีตผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือที่ เป็นปู่และเป็นพ่อของนายจอง อึน หรือไม่ก็สถานที่จัดการเดินขบวนพาเหรดของกองทัพ
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ซีไอเอและสายลับคิมเข้าถึงสารกัมมันตรังสีและ “สารพิษในระดับนาโน” ที่จะออกฤทธิ์รุนแรงถึงแก่ชีวิตหลังจากระยะเวลาผ่านไปราว 6-12 เดือนแล้วเท่านั้น นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า นายคิมได้รับค่าจ้างในการลงมือเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 740,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 25.66 ล้านบาท) รวมถึงได้รับอุปกรณ์ในการลงมือ อาทิ เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม และอุปกรณ์อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง
ข่าวระบุว่า การลงมือปฏิบัติการตามที่เกาหลีเหนือกล่าวอ้างให้ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องยากอย่างที่สุด เนื่องจากผู้นำเกาหลีเหนือได้รับการปกป้องอารักขาอย่างแน่นหนาตลอดเวลา รวมถึง ทางการยังคงระบบสอดแนมด้านความมั่นคงต่อพลเมืองของตนไว้ แทรกซึมอยู่ในแทบจะทุกระดับของสังคม ทำให้แทบจะไม่มีการแสดงออกซึ่งความเห็นต่างอย่างเปิดเผยเลย
