เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ซีเอ็นเอ็นรายงานข่าวการจัดอันดับพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทางที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งหมายถึงพาสปอร์ตของประเทศที่สามารถเดินทางเข้าประเทศอื่นทั่วโลกได้มากที่สุดโดยไม่ต้องขอวีซ่า โดยนำข้อมูลมาจากดัชนีข้อห้ามเรื่องวีซ่าประจำปี 2559 สำรวจและจัดทำโดยเฮนลีย์แอนด์พาร์ทเนอร์ส บริษัทที่ปรึกษาที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ร่วมกับ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาตา) ที่มีการรวบรวมและจัดอันดับทุกปีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549
ผลการสำรวจของปีนี้พบว่า พลเมืองของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาไม่ได้ทรงอิทธิพลมากที่สุดอีกต่อไป โดยสหรัฐร่วงลงจากอันดับ 1 ในปี 2557 และ 2558 มาอยู่ที่ 4 ในปีนี้ ขณะที่อันดับ 1 คือเยอรมนี ที่พลเมืองผู้ถือพาสปอร์ตเยอรมันสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกได้ถึง 177 จาก 218 ประเทศและดินแดนทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า
ตามหลังเยอรมนีมาติดๆ คือสวีเดนที่อยู่อันดับ 2 ปีนี้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว โดยเดินทางเข้าประเทศต่างๆ ได้ 176 ประเทศ
อันดับ 3 มีหลายประเทศคือฟินแลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และอังกฤษ ที่เคยอยู่อันดับ 1 เมื่อปี 2556 เข้าได้ 175 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า ขณะที่เบลเยียม เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์อยู่ในอันดับที่ 4 ร่วมกับสหรัฐ เข้าได้ 174 ประเทศ
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งเคยอยู่ใน 3 อันดับแรกเมื่อปี 2557 และ 2558 หล่นลงมาอยู่ในอันดับ 5 และ 6 ในปีนี้ตามลำดับ โดยญี่ปุ่นอยู่อันดับ 5 ร่วมกับ ออสเตรียและสิงคโปร์ เข้าได้ 173 ประเทศ ส่วนเกาหลีใต้อยู่อันดับ 6 ร่วมกับแคนาดา ไอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ โปรตุเกส และสวิตเซอร์แลนด์ เข้าได้ 172 ประเทศ
ด้านอันดับล่างสุด ท้ายตารางที่ถือว่าเป็นกลุ่มประเทศที่มีพาสปอร์ตแย่ที่สุด คืออัฟกานิสถานที่อันดับ 104 เข้าประเทศอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเพียง 25 ประเทศเท่านั้น ถัดขึ้นมาจากนั้นเป็นปากีสถานที่เข้าได้ 29 ประเทศ อิรักเข้าได้ 30 ประเทศ โซมาเลียเข้าได้ 31 ประเทศ และซีเรีย เข้าได้ 32 ประเทศ
ขณะที่ไทยอยู่อันดับ 67 ร่วมกับโอมาน โดยเดินทางเข้าประเทศและดินแดนอื่นๆ ทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า ได้ 71 ประเทศ
เฮนลีย์แอนด์พาร์ทเนอร์ส ระบุว่า ดัชนีข้อห้ามเรื่องวีซ่า “สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างชัดเจน” นอกจากนี้ เรื่องภัยคุกคามความมั่นคงและความเสี่ยงที่จะละเมิดกฎการเข้าเมืองยังคงถูกนำมาเป็นปัจจัยในการจัดอันดับด้วย
