สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างคำเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ด้านกลาโหมของประเทศสมาชิกอาเซียนเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนว่า ชาติอาเซียนส่วนหนึ่งวางแผนที่จะใช้เครื่องบินสอดแนมและเครื่องบินไร้คนขับหรือโดรนเพื่อหยุดยั้งการเคลื่อนย้ายของสมาชิกกลุ่มติดอาวุธระหว่างช่องโหว่ตามแนวชายแดน จากความกังวลที่เพิ่มขึ้นในเรื่องอิทธิพลของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในภูมิภาค
อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ระบุว่า จะมีการลาดตระเวณทางอากาศร่วมกันในเดือนมิถุนายนนี้บริเวณชายแดนที่ติดกันระหว่าง 3 ชาติในทะเลซูลู เพิ่มจากการลาดตระเวณทางทะเลร่วมกันที่มีอยู่เดิมซึ่งมีสิงคโปร์คอยให้ความช่วยเหลืออยู่
เจ้าหน้าที่ทางการในภูมิภาคเรียกร้องให้มีความร่วมมือกันมากขึ้นเพื่อเป็นมาตรการตอบโต้ต่อผลที่จะตามมาจากการต่อสู้อันดุเดือดกับกลุ่มติดอาวุธที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอสทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ที่สุดของภัยคุกคามจากกลุ่มสุดโต่งในการสร้างฐานที่มั่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่าที่เคยมีมา
นายเล เลือง มินห์ เลขาธิการอาเซียนเปิดเผยในการประชุมด้านความมั่นคงประจำปีของภูมิภาคแชงกรี-ลา ไดอะล็อก ที่สิงคโปร์ระบุว่า พรมแดนของเราในส่วนที่เปิดถูกกลุ่มก่อการร้ายใช้ประโยชน์ในการลำเลียงอาวุธและบุคลากร
เจ้าหน้าที่ด้านข่าวกรองระบุว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นักรบติดอาวุธสุดโต่งหลายสิบคนจากอินโดนีเซียและมาเลเซียได้ข้ามจากประเทศของตนเองไปยังเกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์อย่างง่ายๆ โดยใช้เส้นทางน้ำที่มักจะไม่มีกฎหมายควบคุมและเต็มไปด้วยปัญหาโจรสลัด
ทั้งนี้มินดาเนาเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอย่างมีนัยยะสำคัญในประเทศที่มีชาวแคทอลิกเป็นคนส่วนใหญ่อย่างฟิลิปปินส์
