คำสั่ง’ทรัมป์’ห้าม6ชาติมุสลิมเข้าสหรัฐมีผลบังคับใช้ คาดวุ่นวายหนักหลังยังตีความไม่ชัด

Spencer Platt/AFP

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คำสั่งผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ที่สั่งห้ามพลเมืองจาก 6 ชาติซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมเดินทางเข้าประเทศ มีผลบังคับใช้บางส่วน เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน หลังจากที่เขาชนะคดีในศาลสูงสุดเหนือกลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิ

แต่การนำคำสั่งดังกล่าวไปปฏิบัติจริงหลังผ่านกระบวนการต่อสู้ทางกฎหมายมานาน 5 เดือน อาจเต็มไปด้วยความอลหม่าน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคำตัดสินของศาลเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมาระบุว่า นายทรัมป์สามารถสั่งห้ามนักเดินทางจากประเทศเป้าหมาย “ที่ไม่มีความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับบุคคลหรือองค์กรที่อยู่ในสหรัฐ” ได้เท่านั้น และจากการที่มีเวลาเตรียมการเพียง 72 ชั่วโมงก่อนที่คำสั่งจะมีผลบังคับใช้ ทำให้บรรดานักกฎหมายต้องเร่งตีความตัวบทกฎหมายเพื่อนิยามคำพิพากษาดังกล่าว

ทั้งนี้ ต้องกำหนดมาตรฐานสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐและบรรดานักการทูตในอิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน และเจ้าหน้าที่ที่จุดผ่านแดน ว่าใครจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าบุคคลที่มาจากประเทศข้างต้นคนไหนบ้างที่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้

บรรดานักกฎหมายและทนายความทั้งฝั่งที่สนับสนุนและคัดค้านคำสั่งห้ามเดินทางนี้ระบุว่า ผลที่ตามมาอาจทำให้เกิดการฟ้องร้องทางกฎหมายจากนักเดินทาง ผู้อพยพ และกลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายที่ถูกสั่งห้ามจำนวนมาก เป็นการชะลอการเดินทางเข้ามายังสหรัฐของนักเดินทางจากทั้ง 6 ประเทศนี้ออกไป

Advertisement

คำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นการยุติช่วงเวลา 5 เดือนของการเผชิญหน้าทางกฎหมาย โดยศาลสูงสุดกลับคำตัดสินส่วนหนึ่งของศาลชั้นต้นที่ระงับคำสั่งห้ามนักเดินทางจาก 6 ชาติเข้าสหรัฐ ของนายทรัมป์ ซึ่งเขาระบุว่า จำเป็นสำหรับการคัดกรองภัยคุกคามจากการก่อการร้ายออกไป นอกจากนี้คำสั่งศาลยังยินยอมให้นายทรัมป์สั่งห้ามผู้อพยพทั้งหมดเข้าประเทศเป็นเวลา 120 วัน

กลุ่มพันธมิตรผู้อพยพนิวยอร์ก เปิดเผยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ว่า พวกตนวางแผนที่จะเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ในนครนิวยอร์ก เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ผลกระทบที่มาจากคำสั่งฝ่ายบริหารที่สั่งห้ามชาวมุสลิมและผู้อพยพเข้าประเทศ

ศาลระบุว่าจะทบทวนคดีนี้ใหม่ในเดือนตุลาคม ที่หมายความว่าถึงตอนนั้นคำสั่งห้ามจะถูกนำไปปฏิบัติแล้วเป็นส่วนใหญ่ โดยอาจมีการขยายเวลาออกไปอีกหากกระบวนการคัดกรองผู้อพยพยังคงถูกพิจารณาว่าไม่มีความเข้มงวดมากพอ

Advertisement

การสั่งห้ามผู้อพยพอาจกลายเป็นข้อถกเถียงในเร็วๆ นี้จากการที่ฝ่ายบริหารของนายทรัมป์ลดจำนวนผู้อพยพที่จะรับต่อปีลงเหลือ 50,000 คน โดยกระทรวงต่างประเทศระบุว่า จำนวนผู้อพยพจะถึงเพดานที่จำกัดไว้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

ผลกระทบที่มีต่อนักเดินทางจาก 6 ประเทศดังกล่าวจะอยู่ในระดับใดนั้นยังไม่ชัดเจน โดยศาลระบุเพียงว่า ผู้มีความสัมพันธ์อย่างชัดแจ้งหรือแท้จริงกับบุคคลหรือองค์กรอเมริกันเท่านั้นที่จะสามารถเข้าประเทศได้ ซึ่งศาลยกตัวอย่างว่าเป็นผู้ที่มีญาติสนิท ผู้ได้รับการคัดเลือกให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย หรือทำงานให้กับบริษัทในสหรัฐเท่านั้น แต่คำจำกัดความนี้จะขยายไปถึงผู้ที่มีญาติห่างๆ หรือผู้ที่สมัครเข้าศึกษาและสมัครงานอยู่ด้วยหรือไม่ ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image