เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โรงพยาบาลที่ 1 แห่งมหาวิทยาลัยการแพทย์จีน ในเมืองเสิ่นหยาง แถลงความคืบหน้าอาการป่วยของนายหลิว เสี่ยวปอ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวจีน วัย 61 ปีและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2010 ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย มีอาการทรุดหนักโดยท้องบวมมากขึ้น มีการอุดกั้นบางส่วนของล้ำไส้และความดันตกลง โดยคณะแพทย์ได้แจ้งอาการให้แก่ทางครอบครัวของนายหลิวรับทราบแล้ว
ทั้งนี้ นายหลิวได้ถูกทางการจีนตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลา 11 ปี ในปี 2009 ในข้อกล่าวหาปลุกปั่นให้มีการล้มล้างอำนาจรัฐ หลังจากนายหลิวได้ช่วยเขียนคำร้องที่ถูกเรียกขานว่า “มาตรา 08” เรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเมืองในจีน เมื่อเร็วๆนี้ นายหลิวได้ถูกย้ายออกมาจากเรือนจำเพื่อเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล หลังจากถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย โรงพยาบาลออกแถลงการณ์สั้นๆเพียงว่านายหลิวมีปัญหาที่ตับ ซึ่งอาการของเขาไม่สามารถที่จะให้การรักษาด้วยการฉายรังสีได้
หลังข่าวการป่วยของนักเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนผู้นี้ปรากฎออกมา มีการตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ที่จะให้มีการส่งนายหลิวไปรักษาตัวในต่างประเทศ หากเจ้าตัวประสงค์เช่นนั้นและร่างกายยังพอที่จะเดินทางไหว เสียงเรียกร้องดังกล่าวมีมากขึ้นจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิและจากรัฐบาลชาติตะวันตกที่ขอให้ทางการจีนยินยอมให้นายหลิวเดินทางไปพร้อมกับภรรยาของเขาเพื่อไปรักษาตัวในต่างประเทศ
รอยเตอร์รายงานอ้างความเห็นของแพทย์ชาวเยอรมันและแพทย์ชาวอเมริกันที่ได้เข้าเยี่ยมนายหลิวเมื่อวันอาทิตย์(9 ก.ค.)ที่ผ่านมา กล่าวว่า นายหลิวอาจสามารถเดินทางไปเข้ารับการรักษาตัวในต่างประเทศได้อย่างปลอดภัย และเขาต้องการไปรักษาตัวไม่ที่เยอรมนีก็สหรัฐอเมริกา แต่จำเป็นจะต้องมีการส่งตัวไปโดยเร็ว และว่า ยังอาจมีทางเลือกเหลืออยู่ในการรักษาซึ่งรวมถึงวิธีรังสีบำบัด
รอยเตอร์รายงานท่าทีของทางการจีนด้วยว่า เมื่อถูกซักถามในระหว่างการแถลงข่าวว่ารัฐบาลจะอนุญาตให้นายหลิวไปรักษาตัวในต่างประเทศหรือไม่ นายเกิง ซ่วง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนหวังว่าประเทศที่เกี่ยวข้องจะเคารพในอธิปไตยของจีนและจะไม่ใช้กรณีของปัจเจกบุคคลเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของจีน