สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม องค์การนิรโทษกรรม หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนการก่ออาชญากรรมของทุกฝ่ายที่มีต่อพลเรือนในเมืองโมซุล ของอิรัก ในช่วงที่กองทัพอิรักต่อสู้กับกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) เพื่อยึดเมืองคืนจากไอเอส จนสามารถปลดปล่อยเมืองโมซุลเป็นอิสระได้ในที่สุด
นางลินน์ มาอาลูฟ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตะวันออกกลาง จากองค์การนิรโทษกรรมสากล กล่าวว่า ความน่ากลัวที่ผู้คนในเมืองโมซุลรู้เห็น และความไม่เอาใจใส่ต่อชีวิตมนุษย์ของทุกฝ่ายในความรุนแรงที่เกิดขึ้น ควรจะต้องถูกลงโทษ และว่า ควรจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาในทันที เพื่อให้แน่ใจว่าหลักฐานที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศจะยังคงอยู่ เพื่อให้การสืบสวนมีประสิทธิภาพ
โดยแอมเนสตี้ฯ พบว่าในช่วงเดือนมกราคมถึงกลางเดือนพฤษภาคม กลุ่มไอเอสได้ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และยังก่ออาชญากรรมสงคราม มีการใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ และสังหารผู้คนหลายร้อยคน มีการแขวนคอเหยื่อในที่สาธารณะ ขณะที่กองทัพอิรักและกลุ่มกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐอเมริกาเองก็ก่อเหตุโจมตีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในเมืองโมซุลเช่นกัน
