สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นางเฟเดริกา โมเกรินี ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) เรียกร้องเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ให้ประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา ระงับแผนการที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่เช่นนั้นก็เสี่ยงที่จะต้องเผชิญหน้าอย่างรุนแรงกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
นายมาดูโรตั้งใจที่จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ เพื่อเลือกองค์กรพลเมืองที่มีชื่อเรียกว่า “สภาร่างรัฐธรรมนูญ” โดยมีจุดประสงค์ในการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ เป็นย่างก้าวที่ฝ่ายค้านกลัวว่าจะมีขึ้นเพื่อลดทอนอำนาจสภานิติบัญญัติของประเทศ
“การจัดให้มีสภาดังกล่าวขึ้นมาเสี่ยงที่จะแบ่งแยกประเทศให้แตกออกเป็น 2 ฝ่ายอย่างร้าวลึกมากขึ้น” นางโมเกรินีกล่าวหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียู และว่า “เราเชื่อว่าจะช่วยได้มากหากรัฐบาลแสดงท่าทีทางการเมืองเพื่อที่จะลดความตึงเครียด เพื่อสร้างเงื่อนไขที่ดีขึ้นในการกลับสู่สภาพที่สามารถเจรจาโดยสันติได้”
อย่างไรก็ตาม นางโมเกรินีแสดงการสนับสนุนการลงประชามติเชิงสัญลักษณ์ของฝ่ายค้านที่แสดงออกถึงการต่อต้านแผนการของนายมาดูโร เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของประชาชนชาวเวเนซุเอลาที่ต้องการวิธีแก้ไขปัญหาอันยากลำบากโดยสันติอย่างรวดเร็ว
ด้านทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกาออกมาแสดงความสนับสนุนการจัดลงประชามติอย่างไม่เป็นทางการของฝ่ายค้านเวเนซุเอลาเช่นกัน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐขู่รัฐบาลเวเนซุเอลาว่า อาจต้องเผชิญการตอบโต้ด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ทันท่วงที หากยังคงเดินหน้าผลักดันการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหู
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางเสียงเรียกร้องของฝ่ายค้านเวเนซุเอลาให้ประท้วงผละงานทั่วประเทศเป็นเวลา 24 ชั่วโมงในวันที่ 20 กรกฎาคม เป็นการเปิดฉาก “การต่อสู้ครั้งสุดท้าย” ที่มีจุดประสงค์เพื่อบีบให้ประธานาธิบดีมาดูโรจัดใการเลือกตั้งใหม่ก่อนที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในปี 2562
ด้านนายทรัมป์ ประณามนายมาดูโรในแถลงการณ์โดยระบุว่าเป็น “ผู้นำที่เลวซึ่งฝันอยากเป็นเผด็จการ” พร้อมกล่าวว่า สหรัฐจะไม่ยืนเคียงข้างรัฐบาลที่ทำให้เวเนซุเอลาพังทลาย
ข่าวระบุด้วยว่า นายฮวน มานูเอล ซานโตส ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ได้เดินทางเยือนคิวบา ชาติพันธมิตรใกล้ชิดของเวเนซุเอลา เพื่อหารือกับประธานาธิบดีราอูล คาสโตร ในเรื่องวิกฤตเวเนซุเอลา อย่างไรก็ตาม นางมาเรีย อังเคลา โอลกูอิน รัฐมนตรีต่างประเทศโคลอมเบีย ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่านายซานโตสพยายามโน้มน้าวให้นายคาสโตร แสดงบทบาทเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยวิกฤตครั้งนี้
