สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา แอปเปิล อิงค์. ผู้ผลิตและจำหน่ายสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของโลก แถลงผลประกอบการรายไตรมาส สำหรับไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ระบุว่า แอปเปิลมีรายได้เพิ่มขึ้น 7.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดขายไอโฟนเพิ่มขึ้น 0.1 เปอร์เซ็นต์เป็น 41.03 ล้านเครื่อง เทียบกับ 40.4 ล้านเครื่องในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่ง แฟคท์เซ็ท สตรีทแอคเคาท์ บริษัทวิจัยข้อมูลการตลาดระบุว่า เป็นยอดขายที่ดีกว่าตัวเลขคาดการเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ทั่วไป ที่เชื่อว่าไอโฟนจะขายได้น้อยลงเพราะผู้ซื้อชะลอซื้อเพื่อรอรุ่นใหม่ซึ่งกำลังเตรียมวางตลาดที่จะเป็นรุ่นครบรอบ 10 ปีของไอโฟนอีกด้วย นักวิเคราะห์คาดว่าไอโฟนสามารถทำยอดขายไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 45.55 ล้านเครื่อง เทียบกับ 45.51 ล้านเครื่องเมื่อไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว
ขณะที่เอเอฟพีรายงานว่า ยอดขายที่ทำได้ดีเกินคาดทำให้มูลค่าหุ้นของแอปเปิลถีบตัวสูงขึ้น เมื่อนักลงทุนคาดว่าจะสามารถทำยอดขายไอโฟนรุ่นใหม่ได้ดีในอนาคตอันใกล้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลสตรีทสามารถปิดตลาดทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นวันที่ 5 ติดต่อกันเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ทำให้ตลาดหุ้นทั่วเอเชียได้รับอานิสงส์ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ยกเว้นตลาดหุ้นซิดนีย์ที่ยังแกว่งตัวในแดนลบ
