สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา (ยูเอสจีเอส) รายงานว่าสามารถตรวจจับเหตุแผ่นดินไหวระดับ 6.3 แมกนิจูดได้ที่เกาหลีเหนือ จุดเกิดเหตุอยู่ลึกลงไปใต้ดินเพียง 10 กิโลเมตร ซึ่งบ่งชี้ว่าทางการเกาหลีเหนือได้ทดลองระเบิดนิวเคลียร์อีกครั้งเป็นครั้งที่ 6 โดยการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก เคซีเอ็นเอ สำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือ เผยแพร่ภาพและข่าวนาย คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของประเทศเดินทางไปเยี่ยมโครงการพัฒนาอาวุธเพื่อตรวจสอบความสำเร็จในการพัฒนาระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์หรือ ไฮโดรเจนบอมบ์ (เอช บอมบ์) ที่ช่วยเพิ่มอาณุภาพของระเบิดนิวเคลียร์จากหลายสิบเมกะตันให้เป็นหลายร้อยเมกะตันได้สำเร็จ
ยูเอสจีเอสระบุว่า จุดเกิดเหตุแผ่นดินไหว อยู่ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือค่อนไปทางเหนือของเมือง คิมแช็ก ซึ่งเหตุแผ่นดินไหวจากบริเวณดังกล่าวที่ผ่านมาล้วนเกิดจากการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือทั้งสิ้น ในขณะที่ชาวบ้านในเมืองหยานจีของจีนที่มีชายแดนติดต่อกับเกาหลีเหนือก็ระบุว่าสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวดังกล่าวได้เป็นเวลานาน 10 วินาที ต่อด้วยเหตุอาฟเตอร์ช็อก ซึ่งทางการจีนเชื่อว่าเป็นเหตุยุบตัวของหลุมทดลองจากอานุภาพของระเบิดนิวเคลียร์
ในรายงานข่าวที่อ้างถึงเอช บอมบ์ของเกาหลีเหนือระบุว่า ระเบิดนิวเคลียร์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เป็นผลสำเร็จเมื่อเร็วๆนี้ เป็นระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์แบบมัลติฟังก์ชั่น ที่มีอาณุภาพทำลายล้างสูงมากและสามารถจุดชนวนระเบิดได้ที่ระดับความสูงมากๆได้ ทำให้สามารถโจมตีฝ่ายตรงกันข้ามด้วยแรงกระแทกของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (อีเอ็มพี) ได้ตามเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยอ้างด้วยว่าชิ้นส่วนประกอบทั้งหมดของระเบิดนิวเคลียร์ใหม่นี้ทำขึ้นเองภายในประเทศทั้งหมด ตามนโยบายพึ่งตนเองของเกาหลีเหนื
ทางด้านนายคิม ดอง ยับ ผู้เชี่ยวชาญนิวเคลียร์จากสถาบันตะวันออกไกลศึกษา ของมหาวิทยาลัยเกียงนัมในกรุงโซล ระบุว่า การที่เคซีเอ็นเออ้างถึงการเพิ่มอานุภาพจากสิบเป็นร้อยเมกะตัน นั้นแสดงให้เห็นว่าเอช บอมบ์ที่อ้างถึงน่าจะเป็นเพียงระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกเสริมอานุภาพมากขึ้นมากกว่าที่จะเป็นระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์เต็มรูปแบบจริงๆ นอกจากนั้น เคซีเอ็นเอยังเผยแพร่ภาพนิ่งที่แสดงถึงการเยี่ยมชมหัวรบนิวเคลียร์ที่มีลักษณะเหมือนนาฬิกาทราย พร้อมกับแผนผังของขีปนาวุธ ฮวาซง-14 แขวนไว้บนผนัง เพื่อแสดงให้เห็นถึงรูปร่างที่แตกต่างไปจากหัวรบนิวเคลียร์ทรงกลมที่เคยเผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
นาย อี ชุน กึน นักวิจัยอาวุโสประจำสถาบันนโยบายวิทยาศาสาตร์และเทคโนโลยี ของเกาหลีใต้ ชี้ว่า ระเบิดดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์แบบ 2 ระยะ ที่เป็นการนำเอาระเบิดจากปฏิกิริยาฟิชชันระยะแรกกับปฏิกิริยาฟิวชันระยะที่สองมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
