สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เฮอริเคนเออร์มา หนึ่งในพายุจากมหาสมุทรแอตแลนติกที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ กำลังมุ่งหน้าไปยังรัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 กันยายน หลังจากพัดถล่มแถบแคริบเบียน และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 14 ราย วันเดียวกัน ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ (เอ็นเอชซี) ของสหรัฐ ปรับลดระดับความรุนแรงของเฮอริเคนเออร์มาจากระดับ 5 ลงเป็นระดับ 4 แต่ยังคงมีความเร็วของลมที่ระดับ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข่าวระบุว่า เฮอริเคนเออร์มากำลังมุ่งหน้าไปยังบาฮามาส ที่คาดว่าจะเกิดสตอร์มเซิร์จสูง 6 เมตร ก่อนมุ่งหน้าไปยังประเทศคิวบา และพัดเข้าตอนใต้ของรัฐฟลอริดาในวันที่ 10 กันยายน โดยมีรายงานว่า ที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ผู้คนต่างพากันเข้าคิวเป็นแถวยาวเพื่อรอซื้อน้ำขวด ขณะที่รถยนต์จำนวนมากต่างเข้าคิวเพื่อรอเติมน้ำมัน จนทำให้บางพื้นที่ขาดแคลนน้ำมัน ส่วนยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้น 5 เท่าจากช่วงเวลาปกติ
ส่วนหมู่เกาะเติกส์และหมู่เกาะเคคอส ดินแดนของสหราชอาณาจักร ที่ได้รับผลกระทบจากเฮอริเคนเออร์มาเช่นกัน ได้ประกาศปิดหมู่เกาะ และขอให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวอยู่แต่ภายในอาคารเพื่อความปลอดภัย
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เพิ่มงบประมาณช่วยเหลือเหยื่อเออร์มา เป็น 32 ล้านปอนด์ จากเดิมตั้งไว้ที่ 12 ล้านปอนด์ โดยอังกฤษได้ส่งเครื่องบินทหาร 2 ลำพร้อมสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ดินแดนของสหราชอาณาจักร เพื่อช่วยเหลือเหยื่อผู้ประสบภัยเฮอริเคนเออร์มา ขณะที่นายกุส จาสเพิร์ต ผู้ว่าการหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากเฮอริเคนเออร์มาได้สร้างความเสียหายอย่างหนัก รวมทั้งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
