เมื่อวันที่ 12 กันยายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เตรียมเปิดการประชุมในวันที่ 13 กันยายน เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องความรุนแรงที่เกิดในประเทศพม่า ที่ทำให้ชาวมุสลิมโรฮีนจากว่า 300,000 คน ต้องหนีภัยสงครามไปยังบังกลาเทศ
ข่าวระบุว่า การประชุมดังกล่าวมีขึ้นตามคำร้องขอของอังกฤษและสวีเดน ที่เรียกร้องให้จัดการประชุมเร่งด่วนท่ามกลางความห่วงกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงที่ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องในรัฐยะไข่ โดยนายแมทธิว ไรครอฟท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำสหประชาชาติ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การหารือดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่า สมาชิกของยูเอ็นเอสซีมีความห่วงกังวลอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่องของชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ และหวังว่าจะมีข้อตกลงร่วมกันออกมาหลังการหารือ
ทั้งนี้ ยูเอ็นเอสซีเคยประชุมลับเกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพม่า เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม แต่ไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการออกมาแต่อย่างใด
ล่าสุดสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติระบุว่า ตัวเลขชาวโรฮีนจาที่หนีภัยความรุนแรงออกจากพม่าเข้าไปยังบังกลาเทศนับตั้งแต่เกิดเหตุวุ่นวายครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนสิงหาคมพุ่งสูงขึ้นเป็น 370,000 รายแล้ว
ขณะที่มีรายงานว่า รัฐบาลบังกลาเทศเตรียมหาสถานที่สร้างค่ายผู้อพยพเพิ่มเติมสำหรับชาวโรฮีนจาและหนึ่งในที่ที่วางแผนไว้ คือเกาะเธนการ์ ชาร์ ซึ่งเป็นเกาะร้างที่อยู่ห่างไกลออกไป และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบาซัน ชาร์ โดยตำรวจบนเกาะเปิดเผยว่า เกาะแห่งนี้จะมีน้ำท่วมปีละหนสองหน และตนคิดว่าจะต้องมีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ก่อนที่จะย้ายคนเข้าไปอยู่อาศัย
