สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบอ้างอิงของสหรัฐอเมริการ่วงลงต่ำสุดในรอบ 12 ปี ครั้งใหม่ที่ระดับไม่ถึง 28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อวันที่ 20 มกราคม หลังจากที่สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) เตือนว่า ตลาดน้ำมันโลกจะ “ล่มสลายจากการมีอุปทานมากเกินไป”
โดยราคาน้ำมันดิบชนิดเวสต์เท็กซัสร่วงลงมาอยูที่ 27.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงหนึ่งระหว่างภาคการซื้อขายก่อนที่จะดีดตัวกลับขึ้นมาเล็กน้อยที่ 28.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ร่วงลง 33 เซ็นต์จากราคาปิดตลาดวันก่อนหน้า หรือคิดเป็น 1.16 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเวลาราว 09.15 น. ตามเวลาในไทย โดยครั้งสุดท้ายที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปิดที่ราคาต่ำกว่า 2 ดอลลาร์คือเมื่อเดือนกันยายน 2548
ด้านน้ำมันดิบเบรนท์ซื้อขายที่ราคาลดลง 9 เซ็นต์ มาอยู่ที่ 28.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยก่อนหน้านี้ เบรนท์ร่วงลงต่ำกว่า 28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 มกราคม
นายแดเนียล อัง นักวิเคราะห์ของฟิลลิป ฟิวเจอร์ส ระบุว่า รายงานของไออีเอมีส่วนอย่างมากที่ทำให้ราคาร่วงลง และเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงสภาพการณ์ในปัจจุบันของตลาดที่ซบเซาโดยอีไอเอระบุเมื่อวันที่ 16 มกราคมว่า ราคาน้ำมันจะร่วงลงอีกในปีนี้จากการที่อุปทานเกินกว่าอุปสงค์อย่างมาก จากการที่อิหร่านซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่กลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งจะเป็นการชดเชยกำลังการผลิตของชาติอื่นๆ ที่ปรับลดไป
