สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม สหประชาชาติ (ยูเอ็น) แจ้งว่า มีความโรฮีนจาที่ลี้ภัยความรุนแรงจากพม่า หนีเข้าประเทศบังกลาเทศแล้วรวมทั้งสิ้นราว 582,000 คน นับตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุรุนแรงรอบใหม่ในรัฐยะไข่เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา และยูเอ็นคาดว่ายังมีชาวโรฮีนจาที่ยังติดอยู่ตามแนวชายแดนอีกหลายพันคน
ข่าวระบุว่า เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งยูเอ็น (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ระบุว่า มีชาวโรฮีนจาลี้ภัยเข้าไปในบังกลาเทศราว 537,000 คน เท่ากับว่า เพียงแค่ไม่กี่วัน มีชาวโรฮีนจาลี้ภัยเข้าไปในบังกลาเทศเพิ่มขึ้นถึงราว 45,000 คน และเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ยูเอ็นเอชซีอาร์ ได้เรียกร้องให้บังกลาเทศ เร่งรับชาวโรฮีนจาที่ยังตกค้างอยู่บริเวณชายแดนอีกราว 15,000 คน เนื่องจากมีความเป็นห่วงในเรื่องของมนุษยธรรม โดยนายอันเดรจ มาเฮซิค โฆษกของยูเอ็นเอชซีอาร์ ได้แสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาที่ตกค้างอยู่บริเวรชายแดนพม่า-บังกลาเทศในขณะนี้ โดยระบุว่า ตั้งแต่คืนยันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจขาราว 10,000 -15,000 คน เดินทางเข้าบังกลาเทศ และกำลังรอการอนุญาตจากบังกลาเทศให้เข้าประเทศได้
โดยรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 ตุลาคม มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาหลายพันคนข้ามชายแดนจากพม่าไปยังประเทศบังกลาเทศ เพื่อหนีภัยความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ จนทำให้ชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างอดอยาก
