สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รายงานของสหประชาติ (ยูเอ็น) ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมระบุว่า แม้ว่าอัตราการเสียชีวิตของเด็กทารกจะลดลงเป็นอย่างมาก แต่เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบยังคงเสียชีวิตวันละ 15,000 คนทั่วโลกด้วยโรคที่สามารถป้องกันได้
รายงานเตือนว่าเนื่องจากประเทศในทวีปแอฟริกาและเอเชียใต้บางประเทศยังคงตามหลังอยู่ในด้านการรักษา ทำให้เด็กเล็กมากกว่า 60 ล้านคนจะเสียชีวิตระหว่างตอนนี้จนถึงปี 2573 จากความเจ็บป่วยที่สามารถรักษาได้
รายงานฉบับนี้ที่เป็นการจัดทำร่วมกันระหว่างกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) องค์การอนามัยโลก (ฮู) และธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประเมินว่า ในปี 2559 เด็กราว 5.6 ล้านคนเสียชีวิตก่อนที่จะอายุครบ 5 ขวบ นั่นเป็นจำนวนที่ลดลงอย่างมากจาก 12.6 ล้านคน เมื่อปี 2533 แต่เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเสียชีวิตวันละ 15,000 คน ยังถือเป็น “จำนวนที่สูงอย่างยอมรับไม่ได้”
ปอดบวม ท้องร่วง และมาลาเรีย อันเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ เป็นสาเหตุลำดับแรกๆ ที่คร่าชีวิตเด็กเหล่านี้ แต่รายงานระบุด้วยว่าภาวะทุพโภชนาการซึ่งอาจทำให้เด็กอ่อนแอและป่วยหนัก มีบทบาทในการเสียชีวิตของเด็กครึ่งหนึ่ง
ภูมิภาคใต้ทะเลทรายซาฮาราในทวีปแอฟริกา หรือซับซาฮารา มีอัตราการเสียชีวิตในเด็กทารกสูงที่สุดเฉลี่ย 79 ราย ต่อเด็กที่เกิดมา 1,000 คน ในปี 2559 แต่หากในแง่ของจำนวนแล้ว อินเดียมากสุดที่ 850,000 ราย ขณะที่ไนจีเรียตามมาที่ 450,000 ราย
อินเดีย ไนจีเรีย ปากีสถาน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เอธิโอเปีย จีน และไนเจอร์ ในจำนวนนี้รวมกันแล้วมีเด็กเสียชีวิตราวครึ่งหนึ่ง
การประชุมสุดยอดด้านสุขภาพโลกเมื่อปี 2558 ตั้งเป้าว่าจะลดจำนวนผู้เสียชีวิตที่มีอายุน้อยกว่า 5 ขวบให้ลงมาเหลือน้อยกว่า 25 รายต่อเด็กที่เกิด 1,000 คน ถึงตอนนี้อยู่ที่ 41 รายต่อ 1,000 คน ลดลงจาก 93 ราย เมื่อปี 2533
ท่ามกลางความกังขาว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้หรือไม่ รายงานระบุว่า มากกว่า 50 ประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกา ยังคงล้าหลังในการพัฒนาการเข้าถึงการรักษาและเครื่องอำนวยความสะดวก
“หากแนวโน้มปัจจุบันยังดำเนินไป เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบมากกว่า 60 ล้านคน จะเสียชีวิตระหว่างปี 2560 – 2573 โดยครึ่งหนึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กแรกเกิด” รายงานระบุ
รายงานยังเน้นให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างอัตราการเสียชีวิตระหว่างเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงในประเทศเอเชียบางแห่ง โดยในหลายๆ ประเทศมีช่องว่างการเสียชีวิตของเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงลดลงจาก 19 รายมาอยู่ที่ 11 ราย
“ในบางประเทศ ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตก่อนอายุ 5 ขวบสำหรับเด็กผู้หญิงนั้นสูงกว่าเด็กผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มทั่วโลก โดยประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่เอเชียใต้และเอเชียตะวันตก”
ทั้งนี้ หลายประเทศในเอเชียมีวัฒนธรรมแต่ดั้งเดิมที่โปรดปรานเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง ทำให้มีการเลือกทำแท้งอย่างบ้าคลั่งและผู้เด็กชายมักได้รับการเลี้ยงดูที่ดีกว่าทั้งด้านอาหารและการรักษาพยาบาล