สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นักการทูตในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมระบุว่า ฝรั่งเศสและอังกฤษ ได้ยกร่างมติความยาว 6 หน้าเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาให้ความเห็นชอบในที่ประชุมยูเอ็นเอชซี โดยมีเนื้อหาประณามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ ของพม่าซึ่งส่งผลให้ชาวโรฮีนจาหลายแสนคนต้องหลบหนีออกนอกประเทศและตกอยู่ในสภาพอดอยากแร้นแค้นก่อนหน้านี้
ในร่างมติดังกล่าวไม่ได้มีข้อกำหนดให้แซงก์ชั่น แต่มีข้อเรียกร้องหนักแน่นหลายประการให้รัฐบาลพม่าดำเนินการเพื่อแก้ปัญหา ยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ร่างมติดังกล่าวนอกจากจะประณามการกระทำรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ รวมทั้งประนามการโจมตีของกองกำลังติดอาวุธโรฮีนจา และแสดงความกังวลอย่างลึกซึ้งต่อการกระทำตามอำเภอใจของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของพม่า ซึ่งถือเป็นการใช้อำนาจอย่างบิดเบือนและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ร่างมติยังเรียกร้องให้ พม่า ยินยอมให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์และให้ความช่วยเหลือเพื่อสิทธิมนุษยชนเข้าถึงพื้นที่รัฐยะไข่โดยปลอดภัย, เรียกร้องให้พม่ายินยอมให้ทีมสืบสวนสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นเดินทางเข้าไปตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวหาต่างๆ ในรัฐยะไข่, ให้มีการแต่งตั้งที่ปรึกษาพิเศษว่าด้วยปัญหาพม่าของยูเอ็นขึ้น, เรียกร้องให้พม่าลงมือปฏิบัติจริงตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการพิเศษนำโดยนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการยูเอ็น, เรียกร้องให้ยุติปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดในรัฐยะไข่และอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศเดินทางกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในรัฐยะไข่ตามเดิม
นักการทูตรายเดียวกันซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า จีนซึ่งมีสิทธิวีโต้มติใดๆ แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับร่างมติดังกล่าวและคาดว่าการเจรจาเพื่อหาทางรอมชอมน่าจะยากลำบากมาก เพราะจีนยืนกรานว่า ยูเอ็นเอสซีไม่ควรพูดหรือดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยอ้างว่าทางการจีนดำเนินวิธีการการทูตเงียบเพื่อส่งสารถึงพม่าให้ยุติเหตุรุนแรงและให้แก้วิกฤตผู้ลี้ภัยแล้ว
