คอลัมน์ Think Tank: สงครามเกาหลีรอบใหม่

(FILES) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ / AFP PHOTO / MANDEL NGAN AND ED JONES

เมื่อสงครามเกาหลียุติลงในปี 1953 ผู้คนเสียชีวิตไปหลายล้าน เกาหลีใต้กลายเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า นับแต่นั้นมา “โสมขาว” ผลัดเปลี่ยนผู้ปกครองประเทศมาแล้ว 4 ครั้ง

ถึงตอนนี้กรุงโซลเป็นฮับที่ส่องประกายในด้านเทคโนโลยี เคป็อป และการทำศัลยกรรมพลาสติก เป็นที่อยู่ของประชากร 10 ล้านคน และอีกจำนวนมากในบริเวณโดยรอบ

แต่ก็ยังอยู่ในพิสัยทำการของยุทโธปกรณ์มหาศาลของเกาหลีเหนือเช่นเดิม

เขตปลอดทหารที่แบ่งคาบสมุทรเกาหลีออกเป็น 2 ส่วนอยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางเหนือชนิดที่ขับรถเพียงแค่ชั่วโมงเดียวถึง ทำให้กลายเป็นเป้าหมายอันยั่วยวนในกรณีที่เกิดสงครามรอบใหม่

Advertisement

นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้สงครามเกาหลีครั้งที่ 2 จะยังคงเป็นการยุทธตามรูปแบบ แต่จะมีชาวเกาหลีใต้หลายหมื่นคนเสียชีวิตตั้งแต่วันแรก

ความตึงเครียดพุ่งสูงในปีนี้หลังจากที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 และยิงมิสไซล์หลายลูกที่ดูเหมือนมีพิสัยทำการไกลถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ อีกทั้งคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุด กับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ต่างแลกเปลี่ยนคำขู่ว่าจะก่อสงครามและคำพูดสบประมาท ดูถูกดูแคลนกัน

ประเมินกันว่า เกาหลีเหนือมีปืนใหญ่ 10,000 กระบอกและมิสไซล์พิสัยใกล้อย่างน้อย 500 ลูกติดตั้งอยู่ตลอดแนวชายแดนติดกับเกาหลีใต้ ส่วนมากซ่อนอยู่ในถ้ำ อุโมงค์ และหลุมหลบภัย

Advertisement

นอกจากนี้ ยังมีกำลังทหาร 1.1 ล้านนาย 70 เปอร์เซ็นต์ในจำนวนนี้ประจำการอยู่ภายในรัศมี 100 กิโลเมตรของเขตปลอดทหาร

ข้อมูลของสถาบันเพื่อความมั่นคงและยั่งยืนนอติลุสในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2012 ระบุว่า เกาหลีเหนือมีปืน 170 มิลลิเมตร และเครื่องยิงจรวด 240 มิลลิเมตร ที่สามารถยิงถึงกรุงโซลได้อย่างน้อย 700 กระบอก

อย่างไรก็ตาม ความน่าไว้วางใจของอาวุธเหล่านี้ยังเป็นที่กังขา ราว 1 ใน 4 ของกระสุนปืนใหญ่ 170 ลูกที่เกาหลีเหนือยิงใส่เกาะยอนพยองของเกาหลีใต้เมื่อปี 2010 นั้นไม่ทำงาน

อ้างอิงจากเอกสารของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เมื่อปี 2016 สหรัฐจะระดมกำลังทหารมายังคาบสมุทรเกาหลีในกรณีที่เกิดสงคราม 690,000 นาย เรือรบ 160 ลำ และเครื่องบิน 2,000 ลำ

จำนวนดังกล่าวยังไม่รวม ทหารสหรัฐที่ประจำการในเกาหลีใต้อยู่แล้ว 28,500 นาย และทหารเกาหลีใต้อีก 625,000 นาย ทั้ง 2 ชาติจะเอาชนะด้วยความเหนือกว่าในด้านเทคโนโลยีอย่างท่วมท้น และสถานการณ์จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเกาหลีเหนือ แต่ด้วยความสูญเสียมหาศาล

เกาหลีเหนือมีอาวุธทำลายล้างที่พวกเขาอาจตัดสินใจใช้หากพบว่ากำลังจะพ่ายแพ้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ารัฐบาลเปียงยางมีหัวรบนิวเคลียร์ 14 ถึง 18 หัว และคาดว่าจะเพิ่มเป็นมากถึง 100 หัวภายในปี 2020

อานุภาพของอาวุธนิวเคลียร์ที่ทดสอบครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้รับการประเมินต่างกันออกไป แต่เว็บไซต์ “38 นอร์ท” และสถาบันธรณีวิทยานอร์ซาร์ของนอร์เวย์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูง ประเมินว่า ขนาดของมันอยู่ที่ 250 กิโลตัน

อ้างอิงจากนุกแมป โปรแกรมคอมพิวเตอร์จำลองความเสียหายในการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ หากเกาหลีเหนือยิงหัวรบขนาดดังกล่าวให้ระเบิดที่ 5,000 ฟุตเหนือกรุงโซล จะมีผู้เสียชีวิตทันที 660,000 ราย

ขณะที่หากสหรัฐตอบโต้ด้วยวิธีการเดียวกัน จำนวนผู้เสียชีวิตจะสูงถึง 820,000 ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image