สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า ซาอุดี เพรส สำนักข่าวทางการซาอุดีอาระเบียและสถานีโทรทัศน์อัล อาราบิยา รายงานเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ระบุว่า ทางการซาอุดีอาระเบียได้ควบคุมตัวเชื้อพระวงศ์ระดับเจ้าชาย 11 พระองค์ รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันอีก 4 คน อดีตรัฐมนตรีอีกหลายสิบคนโดยอ้างว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในการสืบสวนสอบสวนคอร์รัปชั่นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซึ่งเพิ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมาหลายกรณี อาทิ กรณีที่พัวพันกับเหตุน้ำท่วมใหญ่ในนครเจดดาห์ เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา เป็นต้น
แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ถูกจับกุม แต่มีรายงานว่า หนึ่งในผู้ถูกควบคุมตัวคือเจ้าชาย อัล-วาลีด บิน ทาลัล มหาเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์ ทำให้ คริสเตียน อุลริคเซน นักวิชาการของมหาวิทยาลัยไรซ์ ระบุว่า หากเป็นความจริงการกวาดล้างครั้งนี้ก็ถือว่าใหญ่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์
นอกจากนั้น ยังมีพระราชกฤษฎีกาปลดเจ้าชายมีเท็บ บิน อับดุลลาห์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีกิจการกองกำลังพิทักษ์ชาติ (เนชั่นแนล การ์ด) กองทหารระดับหัวกะทิ โดยแต่งตั้งนายคาหลีด บิน อัยยัฟ ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน และปลดนายอาเดล ฟาเคียห์ จากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและให้นายโมฮัมเหม็ด อัล-ทูไวจ์รี รัฐมนตรีช่วยขึ้นดำรงตำแหน่งแทน
ทั้งนี้ คณะกรรมการปราบคอร์รัปชั่นของซาอุฯ มีเจ้าชายโมฮัมเหม็ด อัล ซัลมาน องค์มกุฎราชกุมารวัย 32 ปี ดำรงตำแหน่งประธาน จนทำให้การกวาดล้างนี้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการกวาดล้างฝ่ายตรงกันข้ามเพื่อกระชับอำนาจ และลดทอนอำนาจอิทธิพลของฝ่ายตรงกันข้าม โดยเฉพาะตระกูลอับดุลลาห์ ซึ่งเคยปกครองซาอุฯมานาน
