‘ทรัมป์’ ชี้สหรัฐเสียเปรียบการค้าญี่ปุ่น เร่งเจรจาลดขาดดุล

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนเอเชีย ระยะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ กล่าวขณะเยือนประเทศญี่ปุ่นเป็นวันที่ 2 ถึงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นว่า สหรัฐเสียเปรียบดุลการค้าให้กับญี่ปุ่นชาติพันธมิตรใกล้ชิดมายาวนานหลายสิบปี ฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการเจรจาในเรื่องดังกล่าว

ทรัมป์ ระบุระหว่างการพบปะกับผู้นำทางธุรกิจญี่ปุ่นและสหรัฐว่า การค้าระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นนั้นไม่เป็นเป็นไปอย่างยุติธรรมและเปิดกว้าง สหรัฐขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นมานานหลายสิบปีและจำเป็นที่จะต้องมีการเจรจาซึ่งจะเป็นไปอย่างเป็นมิตร

ข้อเรียกร้องของทรัมป์มีขึ้นหลังเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์ ได้ร่วมหารือในแบบไม่เป็นทางการกับนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ด้วยการร่วมเล่นกอล์ฟ ที่สนามกอล์ฟคาซุมิงาเซกิคันทรีคลับ ในเมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นนั้นใกล้ชิดกันในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

รายงานระบุว่านอกจากประเด็นด้านการค้าแล้ว ทรัมป์ยังระบุถึงประเด็นวิกฤตการณ์นิวเคลียร์เกาหลีเหนือที่เป็นที่จับตามมองในการเยือนเอเชียของทรัมป์ในครั้งนี้มากที่สุดผ่านสถานีโทรทัศน์ของสหรัฐด้วยในวันเดียวกัน โดยทรัมป์ มีท่าทีที่เป็นมิตรมากขึ้นโดยระบุว่าตนพร้อมที่จะพบปะกับ คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ

Advertisement

“ผมจะนั่งคุยกับใครก็ได้ ผมไม่คิดถึงความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ ผมคิดว่าการนั่งคุยกับใครก็ตามไม่ใช่สิ่งเลวร้าย” ทรัมป์ ระบุผ่านรายการ “ฟูลเมเชอร์” ของสหรัฐอเมริกา

ทรัมป์มีกำหนดพบปะกับครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวเพื่อนำไปเป็นครูฝึก สายลับเกาหลีเหนือ ประเด็นซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ในวันเดียวกันทรัมป์ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น และร่วมหารืออย่างเป็นทางการกับนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรี ก่อนจะแถลงข่าวร่วมกัน และร่วมงานเลี้ยงรับรองในช่วงค่ำ

ทั้งนี้ ทรัมป์ จะเดินทางต่อไปยังกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อพบปะหารือกับนายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ก่อนเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนที่เพิ่งรับตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image