เมื่อวันที่ 20 มกราคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระแสความนิยมในตัว อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงเหล็กของเยอรมนี และกลุ่มการเมืองแนวทางอนุรักษนิยมของแมร์เคิล ประสบความถดถอยลงไปอีก อันเป็นผลจากการดำเนินนโยบายอ้าแขนรับผู้อพยพของรัฐบาลแมร์เคิล และความห่วงวิตกต่อปัญหาอาชญากรรมและความมั่นคงปลอดภัยของชาวเยอรมันที่มีมากขึ้น
โดยโพลที่จัดทำโดย “ฟอร์ซา” ชี้ว่า กลุ่มพันธมิตรทางการเมืองของแมร์เคิลมีคะแนนนิยมลดลง 1 จุด อยู่ที่ 37 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำที่สุดนับแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มทางเลือกเพื่อเยอรมนี (เอเอฟดี) ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองปีกขวา มีความนิยมเพิ่มขึ้น 1 จุด อยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นครั้งแรกที่เอเอฟดีมีคะแนนนิยมที่แตะตัวเลข 2 หลักในการสำรวจของฟอร์ซา ส่วนความนิยมเฉพาะตัวบุคคลของนางแมร์เคิล ได้ปรับลดลงไป 4 จุด อยู่ที่ 44 เปอร์เซ็นต์ แต่แม้คะแนนนิยมของแมร์เคิลจะลดลงไป แต่ก็ยังนำนายซิกมาร์ กาบรีเอล คู่แข่งสำคัญจากพรรคสังคมประชาธิปไตย (เอสดีพี) ที่มีความนิยมเพิ่มขึ้นมา 1 จุด อยู่ที่ 16 เปอร์เซ็นต์
เหตุที่ความนิยมของนายกรัฐมนตรีหญิงแดนอินทรีเหล็กผู้นี้เสื่อมถอยลงไป สืบเนื่องจากการดำเนินนโยบายเปิดประตูรับผู้อพยพลี้ภัย และการยืนกรานของแมร์เคิลว่าเยอรมนีสามารถรับมือกับผู้อพยพจำนวน 1.1 ล้านคนที่แห่อพยพเข้ามาในปีที่แล้วและจะมีมากขึ้นในปีนี้ได้ ส่งผลให้เกิดความไม่เห็นด้วยจากรัฐบาลท้องถิ่นและความเห็นขัดแย้งกับพันธมิตรการเมืองภายในกลุ่มของแมร์เคิลเอง นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่มีผู้หญิงหลายรายตกเป็นเหยื่อข่มขืนทำร้ายในเมืองโคโลญจ์และเมืองอื่นๆ ของเยอรมนีในช่วงวันส่งท้ายปีใหม่ที่ผ่านมา ที่ถูกชี้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้อพยพ และเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันตกเป็นเหยื่อในเหตุโจมตีที่นครอิสตันบุล ประเทศตุรกี เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้ชาวเยอรมันส่วนใหญ่มีความห่วงวิตกไม่เฉพาะแค่ปัญหาวิกฤตผู้อพยพเท่านั้น แต่รวมถึงการต่อสู้กับการก่อการร้ายและอาชญากรรมที่มีเพิ่มขึ้นในประเทศด้วย